"เงินบาทที่อ่อนค่าวันนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมีผลมาจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาไม่ค่อยดี รวมทั้งรองนายกฯ กิตติรัตน์ ที่ออกมาพูดว่าพอใจกับค่าเงินบาทในระดับนี้ เพราะส่งผลดีต่อการส่งออก" นักบริหารเงิน กล่าว
ทิศทางวันพรุ่งนี้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้อีก โดยตลาดจับตารอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะออกมาในคืนนี้ เช่น ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนส.ค. รวมทั้งวันพรุ่งนี้คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. ซึ่งตลาดคาดว่าตัวเลขทั้ง 2 ตัวนี้จะออกมาดี ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.25-32.45 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.85/86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.64/65 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.197/3200 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3198/3199 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,313.49 จุด เพิ่มขึ้น 10.28 จุด, +0.79%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 496.87 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เดือนต.ค.จะมีการประเมินตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 56 และปี 57 ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้และปีหน้าว่าจะโตแตกต่างจากที่คาดไว้ที่ 4.2% หรือไม่
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.56 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มาอยู่ที่ระดับ 79.3 และถือว่าเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 9 เดือนนับแต่ธ.ค.55 โดยการบริโภคของประชาชนมีแนวโน้มลดลงไปจนถึงไตรมาสที่ 4 เหตุจากความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศ, การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย, ผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ รวมทั้งปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง
- ม.หอการค้าไทย เตรียมปรับเป้าหมายคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือ 3.5-4.0% จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ 4.0-4.5% หลังจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกจะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทไม่แข็งค่าแบบไร้เหตุผล อีกทั้งเศรษฐกิจของประเทศผู้ซื้อมีทิศทางดีขึ้น และจะมีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น ทำให้คาดว่าทั้งปีการส่งออกจะเติบโตได้ 4%
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวเล็กน้อยถึงปานกลาง ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ค.ไปจนถึงปลายเดือนส.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยและการเติบโตด้านการบริโภคและการผลิต
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.2% แตะ 302.9 เมื่อเวลา 08.05 น.ตามเวลาลอนดอน ทั้งนี้นักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปในวันนี้ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้เปิดเผยรายงาน Beige Book
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ โดยยังคงดำเนินการเพิ่มฐานเงินที่ระดับ 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ พร้อมกันนี้ยังปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจหลังจากมีสัญญาณบ่งชี้เพิ่มขึ้นว่าเศรษฐกิจได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง อีกทั้งได้ปัจจัยหนุนจากความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายผู้บริโภคและการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชน
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 178 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,870 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,392.18 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 19.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้