"เงินบาทแข็งค่าเนื่องจากตัวเลขการจ้างงานฯ ของสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ออกมาไม่ค่อยดี" นักบริหารเงิน กล่าว
ปัจจัยที่ตลาดจับตามองเป็นเรื่องเกี่ยวกับสหรัฐ ทั้งการตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทหารในประเทศซีเรีย และการชะลอมาตรการ QE ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย.นี้
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 32.20-32.40 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 32.2892 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.40867% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.39913%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.67 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 99.72 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3117 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3113 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.4040 บาท/ดอลลาร์
- นักวิชาการ ม.รังสิต ลดประมาณการจีดีพีไทยลงเหลือ 3.9% จับตาปัจจัยนอกประเทศเศรษฐกิจหลักยังชะลอ เหตุรุนแรงซีเรียยืดเยื้อ ระบุหากดันราคาน้ำมันพุ่งเกิน 6 เดือน กระทบจีดีพี 1%
- นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2556 ต่ำกว่าเป้ามาก จากยอดงบที่ได้รับการอนุมัติทั้งหมดในปีนี้ 3.77 แสนล้านบาท แต่เบิกจ่ายได้เพียง 1.1 แสนล้านบาท หรือประมาณ 20% เท่านั้น เนื่องจากมีรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 3 แห่ง ที่มีงบลงทุนสูง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.), บมจ.ปตท. และ บมจ.การบินไทย ได้ชะลอการลงทุนตามแผนงานที่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากไม่มั่นใจเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนมาก
- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.86% แตะที่ 6.1642 หยวนต่อดอลลาร์
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน(NBS) เผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ลดลง 1.6% ในเดือน ส.ค.เมื่อเทียบรายปี หลังจากอ่อนแรงลง 2.3% ในเดือน ก.ค. หากเทียบรายเดือน ดัชนี PPI เดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากลดลง 0.3% ในเดือน ก.ค.
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน(NBS) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 2.6% ในเดือน ส.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอลงจาก 2.7% ในเดือน ก.ค. หากเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากในเดือน ก.ค.ขยับขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า
- รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2 ปี 2556 โดยระบุว่า จีดีพีที่แท้จริงขยายตัวในอัตรา 3.8% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากการประเมินครั้งก่อนที่ระดับ 2.6% ต่อปี
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์(6 ก.ย.) หลังการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนพยายามปรับตัวรับรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด และประเมินความเป็นไปได้เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐในซีเรีย โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลบ 14.98 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 14,922.50 จุด, ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.09 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 1,655.17 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.23 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 3,660.01 จุด
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มมากขึ้นว่าการโจมตีทางทหารของชาติตะวันตกที่อาจจะมีขึ้นต่อซีเรียจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์ แตะที่ 110.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดขยับขึ้น 86 เซนต์ ที่ 116.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน ต.ค.ร่วงลง 77 เซนต์ แตะที่ 109.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชีย เมื่อเวลา 12.40 น.ตามเวลาซิดนีย์ในวันนี้ อย่างไรก็ตามสัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากตลาดยังคงจับตาสถานการณ์ในซีเรีย
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ หลังจากสหรัฐรายงานข้อมูลจ้างงานที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ปิดปรับขึ้น 13.5 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ที่ 1,386.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 63.6 เซนต์ หรือ 2.73% ที่ 23.891 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.ปิดปรับขึ้น 13.60 ดอลลาร์ ที่ 1,495.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.ปิดบวก 9.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 696.85 ดอลลาร์/ออนซ์
- ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบสกุลเงินหลักเมื่อวันศุกร์ หลังมีรายงานว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด และส่งผลให้ตลาดคาดกันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ ส่วนค่าเงินยูโรแข็งค่าแตะ 1.3181 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3122 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.5634 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5519 ดอลลาร์สหรัฐ
- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ตลาดคาดว่าสหรัฐอาจจะยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด แม้ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย โดยดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 14.89 จุด หรือ 0.23% ที่ 6,547.33 จุด
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะไม่เร่งปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หลังจากตัวเลขการจ้างงานเดือน ส.ค.ออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 306.1 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,049.19 จุด เพิ่มขึ้น 42.39 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,275.67 จุด เพิ่มขึ้น 40.69 จุด หรือ +0.49%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,547.33 จุด เพิ่มขึ้น 14.89 จุด หรือ +0.23%
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 198 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,920 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,397.59 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 21.42 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เผยญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง 12.9% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 5.773 แสนล้านเยนในเดือน ก.ค.โดยมีสาเหตุหลักมาจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากเงินเยนอ่อนค่า แม้ว่ารายได้จากการลงทุนโดยตรงขยายตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยดุลการค้าสินค้าของญี่ปุ่นขาดดุล 9.433 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดดุลมากที่สุดสำหรับเดือน ก.ค. นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบเมื่อปี 2528 ขณะที่ยอดนำเข้าขยายตัว 21.0% สู่ระดับ 6.6505 ล้านล้านเยน เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยน รวมถึงการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบดบังยอดส่งออกที่ขยายตัวขึ้น 11.5% แตะ 5.7073 ล้านล้านเยน
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดลดลงในเช้าวันนี้ หลังราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 330 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.765% ลดลง 0.020% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.30 จุด ปิดที่ระดับ 144.22 ที่ตลาดหุ้นโตเกียว
- ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าพุ่งไปกว่า 2% จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ หลังได้รับ sentiment เชิงบวกจากต่างประเทศ โดยเฉพาะทิศทางตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นมาถ้วนหน้า ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดี รวมทั้งราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดเมื่อเวลา 10.49 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,363.15 จุด เพิ่มขึ้น 26.90 จุด(+2.01%)