"เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลจีนวางเป้าหมายให้นครฉางชุน มณฑลจี๋หลิน และนครฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรืออีสานของจีน เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังประเทศใกล้เคียง" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า จากการหารือกับนายหวัง เจียรุ่ย รองประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน, นายปาอิน เฉาหลู่ ผู้ว่าการมณฑลจี๋หลิน และนายหวัง เสี้ยนขุ่ย เลขาธิการพรรคประจำมณฑลเฮยหลงเจียง และผู้บริหารบริษัท เป่ยต้าฮวง กรุ๊ป ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยฝ่ายจีนได้เสนอซื้อข้าว 1.2 ล้านตัน, มันสำปะหลัง 3 แสนตัน, ยางพารา 2 แสนตัน จากไทย โดยจีนจะจัดส่งคณะมาหารือรายละเอียด
นอกจากนี้ผลจากการเจรจาเบื้องต้นจีนตอบรับขยายการลงทุนสร้างฐานโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังที่จังหวัดสระแก้วเพิ่มขึ้น จากเดิมที่จีนลงทุนร่วมโรงงานแป้งมันในจังหวัดมหาสารคาม
ไทยยังได้เสนอให้มีความร่วมมือกับรัฐบาลทั้งสองมณฑลดังกล่าวในการให้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรที่ส่งออกมายังจีน เพื่อกระจายต่อไปประเทศข้างเคียง ซึ่งปัจจุบันมณฑลเฮยหลงเจียงเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของจีน อาทิ ข้าว ข้าวโพด และถั่วเหลือง แต่ผลผลิตยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค จึงจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะที่มณฑลจี๋หลินเป็นฐานการผลิตรถยนต์แหล่งสำคัญ จึงเป็นโอกาสดีของไทยที่จะส่งออกยางพาราเพื่อใช้สำหรับผลิตยางรถยนต์ในมณฑลดังกล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวว่า ในการเดินทางครั้งนี้ได้เป็นประธานเปิดงาน Thailand Week ณ ห้างสรรพสินค้าโลตัส กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ที่จะส่งเสริมการบริโภคข้าวหอมมะลิไทยและผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน มะม่วง ลำไย มังคุด ในประเทศจีนซึ่งขณะนี้เป็นที่นิยมบริโภคของชาวจีนมากขึ้น
"การประชุมมอบนโยบายให้กับสำนักงานพาณิชย์, สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ของกระทรวงพาณิชย์ในสัปดาห์หน้า ได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเตรียมแผนการบุกตลาดการค้าการลงทุนให้มากขึ้น โดยจะผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยใช้ประโยชน์จาก FTA ในการเข้าไปทำตลาดในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย และมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
การผลักดันการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีของไทยได้หารือไว้กับนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ในงาน China-ASEAN Expo 2013 ที่เมืองหนานหนิง เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันในการวางเป้าหมายการค้าให้เพิ่มมากขึ้นจาก 63,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2012 เป็น 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2015 และตกลงที่จะร่วมมือกันส่งเสริมสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย มันสำปะหลัง ยางพารา และผลไม้ ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคชาวจีนให้มากที่สุด