นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.10/12 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.16/18 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นตามทิศทางของค่าเงินในภูมิภาค ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากตัวเลขเงินเฟ้อ(CPI)ของจีนล่าสุดออกมาดี รวมทั้งขณะนี้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่สหรัฐฯ จะใช้กำลังทหารเข้าโจมตีซีเรีย
"วันนี้บาทน่าจะแข็งตามภูมิภาค ล่าสุดมาอยู่ที่ 32.07/09 แล้ว คงเป็นเพราะตัวเลข CPI ของจีนออกมาดี และตลาดคลายกังวลเรื่องที่สหรัฐฯ จะโจมตีซีเรีย" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงินคาดว่า วันนี้เงินบาทจะแกว่งอยู่ในกรอบ 32.00-32.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.54/55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 99.47/49 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3259/3262 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3184/3186 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ 32.2990 บาท/ดอลลาร์
- นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญา ภิวัฒน์ เปิดเผยในงาน "มุมเศรษฐกิจกับซี.พี." ว่าคาดอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (จีดีพี) ไทยปี 2556 จะโตได้ประมาณ 3.5-4% ลดลงประมาณ 96% จากปีก่อนที่โต 6.5% โดยครึ่งหลังปีนี้ จีดีพีอาจโตได้ประมาณ 3% ต่ำกว่าครึ่งปีหลังของปีก่อนที่โตประมาณ 11.1% เนื่องจากไตรมาส 4/2555 เป็นช่วงที่รัฐบาลผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งรถคันแรก บ้านหลังแรก และรายได้ 300 บาท/วัน ส่งผลให้จีดีพีโตสูงถึง 19%
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ตัวเลขจ้างงานที่น้อยเกินคาดของสหรัฐอาจจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ต่อไป เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในซีเรียอย่างใกล้ชิด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 109.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.4 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ 113.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
- คอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด เผยดัชนีการจ้างงานสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในเดือนส.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวในระดับปานกลางของการจ้างงานในอนาคต โดยดัชนีการจ้างงานเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 113.54 จากระดับ 112.80 ในเดือนก.ค.
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้อีกหลายตัว เช่น การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค., ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และยอดค้าปลีกเดือนส.ค.
- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ขานรับข้อเสนอของรัสเซียที่จะให้อาวุธเคมีของซีเรียอยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ โดยกล่าวว่าเป็นความคืบหน้าในเชิงบวก และอาจจะนำไปสู่การคลี่คลายวิกฤตดังกล่าว โดยโอบามาต้องการให้มีการใช้วิธีทางการทูตคลี่คลายวิฤติดังกล่าว มากกว่าที่จะใช้การโจมตีทางทหาร ซึ่งส่งสัญญาณว่าผู้นำสหรัฐจะระงับแผนการโจมตีซีเรีย หากรัฐบาลซีเรียยอมให้มีการควบคุมอาวุธเคมี
- บริษัทวิจัยของญี่ปุ่น เปิดเผยจำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นลดลง 15.3% จากปีก่อนหน้า แตะที่ 819 แห่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ซึ่งจำนวนบริษัทที่ล้มละลายดังกล่าวถือเป็นระดับต่ำที่สุดของเดือนส.ค. นับตั้งแต่ปี 33 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังประสบกับภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ สาเหตุที่บริษัทล้มละลายมีจำนวนน้อยลงเป็นเพราะสำนักงานบริการการเงินของญี่ปุ่น (FSA) ได้ปล่อยกู้ให้กับบรรดาธุรกิจขนาดเล็ก หลังจากกฎหมายผ่อนเวลาชำระหนี้สำหรับบริษัทขนาดเล็กหมดอายุลงในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา