"เราไม่ได้คัดค้านเรื่องการปรับขึ้นราคา หากเป็นราคาที่เป็นธรรมต่อผูเบริโภค" น.ส.รสนา กล่าว
น.ส.รสนา กล่าวว่า ปัจจุบันโครงสร้างราคาก๊าซมีปัญหาเรื่องความไม่เป็นธรรม เพราะผูกขาดโดย บมจ.ปตท.(PTT) ทำให้ไม่มีการแข่งขัน ข้อมูลต้นทุนราคาก๊าซที่แท้จริงจึงยังไม่มีการเปิดเผยและตรวจสอบ ทำให้เป็นข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ เพราะมาจาก ปตท.เพียงฝ่ายเดียว
ขณะที่สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเองก็มีปัญหาเรื่องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยกลุ่มผู้ฟ้องได้ขอให้ศาลเรียกเอกสารดังกล่าวจากผู้ตรวจการแผ่นดินมาพิจารณาด้วย
"กองทุนน้ำมันฯ เก็บเงินจากประชาชน จึงเป็นเงินที่ประชาชนช่วยเหลือกันเอง ไม่ใช่เงินที่รัฐบาลชดเชยจากงบประมาณแผ่นดิน และเป็นกองทุนฯ ที่มีลักษณะเพื่อประกันกำไรที่แน่นอนให้กับ ปตท." น.ส.รสนา กล่าว
น.ส.รสนา กล่าวว่า ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เนื่องจากการปรับขึ้นราคาดังกล่าวได้เอาไปไว้ในกองทุนน้ำมันฯ ไม่ได้นำไปจ่ายให้กับผู้ขายก๊าซหุงต้ม ทำให้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงทั้งราคาเนื้อก๊าซ และรัฐไม่ได้รับภาษีเพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่มราคาก๊าซหุงต้ม อีกทั้งยังมีการเรียกเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำมันเช่นเดิม ไม่มีการปรับลดราคาให้กับผู้ใช้น้ำมันตามที่อ้างว่าเก็บมาชดเชยราคาก๊าซ
"การเก็บเงินที่ปรับเพิ่มจากก๊าซหุงต้มไปไว้ในกองทุนน้ำมันฯ จะเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่...เมื่อปรับราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ จากผู้ใช้น้ำมัน ผู้ใช้เบนซิน 95 ยังคงจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันในอัตราเดิมคือ 9.70 บาทต่อลิตร จึงไม่ได้ลดภาระของผู้ใช้น้ำมันเมื่อมีการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มตามที่กล่าวอ้าง" น.ส.รสนา กล่าว
น.ส.รสนา กล่าวว่า จะส่งเอกสารเรื่องต้นทุนให้ศาลเพิ่มเติม เพื่อชี้ให้เห็นว่า โรงกลั่นน้ำมัน 5 ใน 6 แห่งที่มีอยู่ ปตท.ถือหุ้นใหญ่ ดังนั้นการกำหนดราคาต้นทุนจึงไม่น่าเชื่อถือ เพราะสามารถตกลงกันได้
"เชื่อว่าคงไม่นาน ศาลคงจะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา" น.ส.รสนา กล่าว
วานนี้ ศาลปกครองกลางได้นัดไต่สวนในคดีหมายเลขดำที่ 1696/2556 ระหว่าง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นำโดยน.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และน.ส.รสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพฯ ฟ้องคดี กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ รมว.พลังงาน และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กรณีการปรับราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจี โดยปรับขึ้นเดือนละ 0.50 บาท/ก.ก. ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. จนถึงราคาต้นทุนโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ 24.82 บาท/ก.ก. พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการบังคับใช้มติครม.ดังกล่าวเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่จนถึงช่วงค่ำยังไม่มีคำสั่งออกมา