นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.89/90 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.95/97 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินในภูมิภาค หลังตลาดคลายความกังวลต่อสถานการณ์ในซีเรียและความชัดเจนเรื่องมาตรการ QE โดยเมื่อเวลา 09.00 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.80/81 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาคต่อเนื่องจากเย็นวานนี้ แนวโน้มยังคงปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาคต่อไป แต่ต้องดู flow" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.70-31.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.43 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 100.28/30 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3316 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3264/3265 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.1310 บาท/ดอลลาร์
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงทรงตัวที่ระดับ 12,690 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,372.71 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้าวันนี้หลังญี่ปุ่นเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรที่ชะลอตัวลงในเดือน ก.ค. นอกจากนี้นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในสัปดาห์หน้า
- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.26% แตะที่ 6.1575 หยวนต่อดอลลาร์
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้(11 ก.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรีย หลังจากประธานธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐได้เลื่อนการตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรียออกไป โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,326.60 จุด เพิ่มขึ้น 135.54 จุด หรือ +0.89%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,689.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด หรือ +0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,725.01 จุด ลดลง 4.01 จุด หรือ -0.11%
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐอาจจะใช้กำลังทางทหารโจมตีซีเรียได้เริ่มคลี่คลายลง ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 107.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 111.5 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรียเริ่มลดน้อยลง หลังจากมีสัญญาณว่าสหรัฐอาจจะใช้ช่องทางทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรีย นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 1,363.80.ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 15.6 เซนต์ ปิดที่ 23.172 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 1,473.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 1.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 691.20 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรียเริ่มลดน้อยลง ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9301 ฟรังค์ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9348 ฟรังค์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.94 เยน จากระดับ 100.35 เยน ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3310 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3267 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5825 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5731 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9334 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9312 ดอลลาร์สหรัฐ
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี ขานรับข่าวที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้เลื่อนการตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรียออกไป