"แม้เชื่อมั่นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าน้อยมาก แต่ กฟผ.ก็ได้จัดการวางแผนการเดินเครื่องและเตรียมสำรองน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลไว้อย่างเพียงพอสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงเดินเครื่องโรงไฟฟ้าในฝั่งตะวันตกทดแทนก๊าซธรรมชาติที่ขาดหายไป เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้า หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอื่นๆ เกิดขึ้นซ้ำซ้อนในช่วงเวลาเดียวกัน ก็จะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวไปได้อย่างราบรื่นในที่สุด ซึ่ง กฟผ.ได้รายงานแผนดังกล่าวให้แก่กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย กฟผ.จะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และ บมจ.ปตท.ในการทำหน้าที่ดูแลระบบไฟฟ้าของประเทศไทยให้มีความมั่นคง" นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า กฟผ.กล่าว
โดยช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา กฟผ.ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ถึงกรณีที่จะมีการหยุดทำงานของแหล่งก๊าซธรรมชาติเยตากุนในสหภาพเมียนมาร์ ช่วงระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.56 ถึงวันที่ 8 ม.ค.57 ซึ่งส่งผลให้ต้องหยุดการจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งก๊าซตะวันตก(สหภาพเมียนมาร์) ทั้งหมดคิดเป็นปริมาณก๊าซธรรมชาติที่หายไปประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ลบ.ฟุต) ต่อวัน ซึ่งภายหลังการบริหารจัดการและการเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงอื่นทดแทนแล้วจะส่งผลกระทบต่อกำลังผลิตไฟฟ้าประมาณ 3,000 เมกะวัตต์ จากกำลังผลิตติดตั้งรวมประมาณ 33,000 เมกะวัตต์
"ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำที่สุดของแต่ละปี โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 24,000 เมกะวัตต์(เป็นตัวเลขคาดการณ์ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทและสถานการณ์จริง) จึงมั่นใจว่าจะมีกำลังผลิตสำรองเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า" นายจรรยง กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 57 นอกจากเหตุการณ์การหยุดทำงานของแหล่งก๊าซธรรมชาติเยตากุนแล้ว ยังจะมีการหยุดทำงานของแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญอีก 2 ครั้ง คือ 1.การหยุดทำงานของแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช บริเวณอ่าวไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 10 เม.ย.-5 พ.ค. 57 คิดเป็นปริมาณก๊าซธรรมชาติที่หายไปประมาณ 633 ล้าน ลบ.ฟุต ต่อวัน และ 2.การหยุดทำงานของแหล่งก๊าซธรรมชาติ JDA แปลง A-18 บริเวณพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ในช่วงระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.-23 ก.ค.57 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าในภาคใต้ ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์ กฟผ.ได้เตรียมมาตรการต่างๆ ไว้รองรับแล้ว จึงคาดว่าจะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี หากไม่เกิดเหตุการณ์อื่นๆ ซ้ำซ้อนในช่วงเวลาเดียวกัน