ทั้งนี้ ปตท. ได้ร่วมวางแผนบริหารจัดการเตรียมความพร้อมกับ กฟผ. โดยจะเรียกรับก๊าซธรรมชาติจากผู้ผลิตทั้งในอ่าวไทยและบนบกอย่างเต็มที่ พร้อมจัดเตรียมสำรองน้ำมันเตา น้ำมันดีเซล ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้เพียงพอต่อความต้องการ
บริษัท เปโตรนาส คาริการี เมียนมาร์ ลิมิตเต็ด ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งเยตากุน สหภาพพม่า จะดำเนินการปิดซ่อมบำรุง เพื่อต่อเชื่อมแท่นผลิตใหม่เข้ากับระบบการผลิตปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยรักษาระดับการผลิตและจ่ายก๊าซฯ ของแหล่งเยตากุนมายังประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่องตามสัญญา จึงมีความจำเป็นต้องหยุดการจ่ายก๊าซธรรมชาติมายังประเทศไทย ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2556 — 8 มกราคม 2557 รวม 14 วัน ส่งผลให้ก๊าซธรรมชาติหายไปจากระบบประมาณ 1,110 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
"ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการหยุดซ่อมบำรุงแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติ คือ ช่วงที่ประเทศมีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ เช่น ช่วงเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาว ดังนั้น ปตท. จึงได้เจรจาขอให้ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติแต่ละแห่งวางแผนหยุดซ่อมบำรุงในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและผู้ใช้ก๊าซทุกภาคส่วน" นายชาครีย์ กล่าว
ปัจจุบัน ประเทศไทยรับก๊าซธรรมชาติจากพม่าปริมาณรวม 1,110 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แบ่งเป็นจากแหล่งยาดานา 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และ แหล่งเยตากุน 460 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยมีผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ 3 กลุ่ม ได้แก่ ภาคไฟฟ้า (EGAT+IPP) ภาคขนส่ง (NGV) และภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี เนื่องจากค่าความร้อนของก๊าซธรรมชาติจาก 2 แหล่งดังกล่าวมีความแตกต่างกันมาก จึงจำเป็นต้องนำก๊าซจากทั้ง 2 แหล่งมาผสมกันก่อนจ่ายให้กับผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติของไทย เพื่อให้มีค่าความร้อนและคุณภาพก๊าซตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น เมื่อแหล่งยาดานา หรือแหล่งเยตากุนแห่งใดแห่งหนึ่งหยุดการผลิต ปตท. จำเป็นต้องหยุดการรับก๊าซธรรมชาติจากพม่าทั้งหมด