ทั้งนี้ ประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ อินเดีย ออสเตรเลีย และรัสเซีย ตามลำดับ
ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.56) มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทย จำนวน 14,968,059 คน เพิ่มขึ้น 2,533,002 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.37 โดยภูมิภาคที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เอเชียตะวันออก ยุโรป และอเมริกา ตามลำดับ สำหรับประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย สหราชอาณาจักร ลาว ออสเตรเลีย และเยอรมนี ตามลำดับ
ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มมากขึ้น คือ การขยายตัวของการเดินทางท่องเที่ยวโลก ความนิยมต่อแหล่งท่องเที่ยวในไทย สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยมีความหลากหลาย มีความคุ้มค่าทางการท่องเที่ยวสูง ประชาชนมีความเป็นมิตร สร้างความอุ่นใจและประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว และผลการดำเนินการตามแผนงานส่งเสริมและสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยลดอุปสรรคด้านการเดินทางท่องเที่ยว ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ กระตุ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหามัคคุเทศก์ขาดแคลนบางภาษา ปัญหาการหลอกลวง และการก่ออาชญากรรมแก่นักท่องเที่ยว อาจจะเป็นปัจจัยที่เป็นข้อจำกัดของนักท่องเที่ยวในการตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย
สำหรับแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวปี 56 องค์การการท่องเที่ยวโลก United Nations World Tourism Organization (UNWTO) คาดว่าแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวโลกจะขยายตัวต่อเนื่องประมาณร้อยละ 3—4 จากปีที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทยจากการวิเคราะห์สถิติในช่วง 7 เดือนแรกของปี 56 และแนวโน้มสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวโลก ตลอดจนแผนงานและมาตรการด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์และกระตุ้นตลาดของ กก. และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวของไทยในปี 56 จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ผู้เดินทางชาวไทยเดินทางออกไปต่างประเทศระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ค.56 มีจำนวน 4,706,805 คน เพิ่มขึ้น 312,182 คน คิดเป็นร้อยละ 7.10 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเป็นหลัก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง