สำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะขนาดกลางและเล็ก(SMEs) รายใดต้องการให้รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานก็ให้แจ้งความจำนงต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าทุกจังหวัด จากนั้นกระทรวงพาณิชย์จะประสานงานกับกรมราชทัณฑ์ให้ผู้ประกอบการส่งงานเข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำที่อยู่ใกล้สถานประกอบการ เพื่อให้ผู้ต้องขังผลิตสินค้าให้ ซึ่งผู้ประกอบการอาจนำเครื่องมือ และเครื่องจักรที่จำเป็นในการผลิตเข้ามาติดตั้งในเรือนจำ
"ผู้ต้องขังบางคนก็เป็นแรงงานฝีมืออยู่แล้ว เช่น ช่างไม้, ช่างยนต์, ช่างไฟ ก็สามารถทำงานได้ ส่วนผู้ที่ยังไม่มีความชำนาญเฉพาะด้านก็จะให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเข้ามาช่วยฝึกอบรมและพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามที่ผู้ประกอบการต้องการ" นายณัฐวุฒิกล่าว
พร้อมระบุว่า การดำเนินการดังกล่าว นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน และลดต้นทุนด้านการผลิตของผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขัง ทำให้สามารถวางแผนชีวิตภายหลังการพ้นโทษ อีกทั้งยังเป็นการลดความเครียดในระหว่างต้องขัง ทั้งนี้หากผู้ต้องขังคนใดมีฝีมือดี เมื่อพ้นโทษแล้วผู้ประกอบการก็สามารถจ้างไปทำงานต่อได้