เงินบาทเปิดตลาด 31.08/09 อ่อนค่าตามแรงขายทำกำไร

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 20, 2013 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 31.08/09 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.96/98 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค
"(เงินบาท)กลับมาอ่อนค่าหลังจากเมื่อวานแข็งค่าลงไปเยอะมาก ส่วนหนึ่งตามแรงเทขายทำกำไร" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์

"แนวโน้มระยะกลางเงินบาทยังมีโอกาสที่จะปรับตัวแข็งค่าได้อีก แต่คงไม่ปรับตัวเร็งเหมือนช่วงก่อนหน้านี้" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.44 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 98.12 บาท/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3534 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3525 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.0310 บาท/ดอลลาร์
  • สินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภทปรับตัวขึ้นแรงรับเฟดคงคิวอี ผิดความคาดหมายที่คาดว่าจะมีการลดขนาดวงเงิน เงินทุนไหลเข้าดันตลาดไทยพุ่ง 50 จุด วอลุ่มทะลัก 8 หมื่นล้านบาท ส่วนราคาทองขยับแรง บรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น
  • นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ มอบนโยบายการทำงานให้กับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ 62 แห่งว่า ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ไปจัดทำแผนและยุทธศาสตร์ผลักดันการส่งออกในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว หากแต่ละตลาดมีแผนงานและกลยุทธ์ที่ชัดเจน จะทำให้การส่งออกในช่วงที่เหลือขยายตัวเพิ่มขึ้นได้
  • นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดตั้งสถาบันการเงินพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่ถือเป็นปัญหาระดับรากหญ้าที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นสถาบันการเงินที่ดำเนินงานเพื่อรากหญ้าในการให้บริการด้านสินเชื่อรายย่อยเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการรับฝากเงิน และสามารถคิดอัตราดอกเบี้ยได้สูงขึ้นจากระดับปัจจุบัน เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อรายย่อยนั้นจะมีต้นทุนดำเนินการที่สูงกว่า ส่วนวิธีการระดมเงินในการปล่อยกู้นั้นคาดว่าจะใช้วิธีการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (พี/เอ็น) หรือการกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ทำสถิติพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งปี 2552 หลังจากหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.พุ่งขึ้น 61.7 ดอลลาร์ หรือ 4.72% ปิดที่ 1,369.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.พุ่งขึ้น 1.728 ดอลลาร์ ปิดที่ 23.292 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.พุ่งขึ้น 47.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1473.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 35.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 738.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง หลังจากซีเรียยอมให้คณะผู้ตรวจสอบต่างชาติเข้ามาตรวจโรงงานอาวุธเคมี โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ร่วงลง 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ย.ร่วงลง 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดขึ้น 0.6% ปิดที่ 315.05 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.51, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,694.18 จุด เพิ่มขึ้น 58.12 จุด หรือ +0.67%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,206.04 จุด เพิ่มขึ้น 35.64 จุด หรือ +0.85% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,625.39 จุด เพิ่มขึ้น 66.57 จุด หรือ +1.01%
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ต่อไป โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.31 เยน จากระดับของวันพุธที่ 97.96 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9105 ฟรังค์สวิส จากระดับ 0.9135 ฟรังค์สวิส ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3527 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3506 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6033 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6111 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9440 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9505 ดอลลาร์สหรัฐ

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ