"ในเดือนกันยายนนี้มีจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 29% และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้น 33% ส่วนในช่วง 9 เดือน(ม.ค.-ก.ย.) ปี56 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยแล้ว 282 ราย เพิ่มขึ้น 12% มีเงินลงทุนที่ 13,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน" นายอิมธิพล กล่าว
โดยธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการ 28 ราย เงินลงทุน 296 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่มเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงิน บริการทางบัญชี และให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการ เป็นต้น ส่วนประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ ฮ่องกง สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ จีน เกาหลีใต้ และฝรั่งเศส
2.ธุรกิจสำนักงานผู้แทน/ภูมิภาค 11 ราย มีเงินลงทุน 33 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การผลิต การตลาด การลงทุน รวมถึงความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ ในประเทศไทยให้สำนักงานใหญ่ทราบ ประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ ญี่ปุ่น สเปน สิงคโปร์ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และเยอรมนี
3.คู่สัญญากับภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ 2 ราย มีเงินลงทุน 24 ล้านบาท ได้แก่ บริการเป็นที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ และออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง และจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยาไปถึงระนอง ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ประเทศที่ได้รับอนุญาตคือ ญี่ปุ่น
4.ธุรกิจนายหน้าตัวแทน 2 ราย มีเงินลงทุน 9 ล้านบาท ได้แก่ การค้า การเป็นตัวแทนเพื่อจัดหาตลาดในต่างประเทศ เพื่อการจำหน่ายสินค้าให้แก่บริษัทในเครือ และการเป็นตัวแทนในการรับคำสั่งซื้อ ออกเอกสารต่างๆ ประสานงาน และดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าให้แก่บริษัทในเครือ ประเทศที่ได้รับอนุญาตได้แก่ เกาหลีใต้ และสวิตเซอร์แลนด์
5.ธุรกิจค้าปลีก 1 ราย มีเงินลงทุน 15 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ประเทศที่ได้รับอนุญาต คือ ญี่ปุ่น