ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้น ทางโกลเบล็ก จึงแนะนำให้เล่นเก็งกำไร และซื้อเมื่ออ่อนตัว และทยอยขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน $1,400/Oz หรือ 20,570 บาท/บาททองคำ สาเหตุที่แนะให้ทยอยลงทุน เนื่องจากมองว่าโอกาสที่เฟดจะพิจารณาปรับลดเม็ดเงินของมาตรการ QE หากตัวเลขเศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะยาวได้
นอกจากนี้ ทางโกลเบล็ก ยังแนะนำนักลงทุนจับตาแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนีภาคการผลิตจีน HSBC ,ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซน ,ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนี ,ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ,ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานสหรัฐฯ(MoM) ,ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ ,ยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐฯ และยอดทำสัญญาขายบ้านสหรัฐ(MoM)
“ตัวเลขขายบ้านมือสองเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 1.7% แตะระดับ 5.48 ล้านยูนิตซึ่ง เป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง บ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯยังคงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อย่างยั่งยืนยังเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ"นายทรงวุฒิ กล่าว
สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำโลกได้ปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ $29.51/Oz หรือคิดเป็น 2.21% ปิดที่ระดับ $1,364/Oz (ณ เวลา 10.00 น. วันที่ 20/09/56) โดยมีจุดต่ำสุดที่ $1,291.40/Oz และมีจุดสูงสุดที่ $1,374.80/Oz โดยสาเหตุที่ราคาทองปรับตัวลดลงก่อนหน้านั้น เกิดจากความวิตกกังวลในเรื่องการลดมาตรการ QE ในการประชุมเฟด ซึ่งมีการประชุมในช่วงกลางของสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการประกาศลดมาตรการ QE ลง 1.0 — 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่ นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ หลังทำเนียบขาวสหรัฐฯเรียกร้องให้สภาครองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลกลาง ในขณะที่สหรัฐฯ ยังเผชิญภารกิจที่ยากลำบากในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งใหกับชนชั้นกลางของประเทศ