เงินบาทปิด 31.30/32 อ่อนค่า นลท.จับตางบประมาณ-เพดานหนี้สหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 27, 2013 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.30/32 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.25/27 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทลงไปแข็งค่าสุดที่ 31.19 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ 31.32 บาท/ดอลลาร์ โดยแนวโน้มสัปดาห์หน้าขึ้นอยู่กับการประชุมของสหรัฐฯ ในเรื่องการขยายวงเงินงบประมาณและเพดานหนี้เป็นสำคัญ

"ตลาดคงรอผลจากสหรัฐฯ เป็นหลัก บ้านน่าจะรู้ผลราวๆ กลางสัปดาห์ว่าจากเรื่องงบประมาณ จะส่งผลให้ต้องมีการปิดหน่วยงานของภาครัฐลงไปบ้างหรือไม่" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.00-31.30 บาท/ดอลลาร์

ส่วน THAI BAHT FIX PM วันที่ 27 กันยายน 2556 อยู่ที่ 31.3025 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.65/68 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 98.90/91 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3496/3499 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3477/3479 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,417.49 จุด ลดลง 7.27 จุด, -0.51%
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,492.86 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนสิงหาคม 2556 ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในช่วงเดือน 2 เดือนแรกของไตรมาส 3/56 บ่งชี้สัญญาณการปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ สศค. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 จะสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (q-o-q SA)
  • สศค.ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 56 ลงเหลือ 3.5-4.0% จากเดิมที่เคยคาดไว้ 4.0-5.0% เหตุที่ปรับลดส่วนหนึ่งมาจากการที่เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกชะลอลงกว่าที่คาด โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวลงหลังจากที่เร่งขึ้นไปมากในช่วงก่อนหน้า

พร้อมคาดการณ์จีดีพีปี 57 ไว้ที่ 4.6-5.6% หรือค่ากลางที่ 5.1% โดยได้รับอานิสงค์จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งช่วยหนุนภาคการส่งออกของไทย ขณะที่การจ้างงานอยู่ในเกณฑ์ดี ภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายจากอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ซึ่งช่วยหนุนให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้

  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 56 จะขยายตัวได้ 3.4% หลังเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณของการปรับตัวดีขึ้น และค่าเงินบาทน่าจะรักษาระดับอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี(TMB Analytics) ระบุถึงแม้การส่งออกของไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า แต่เป็นการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ จนทำให้การส่งออกของทั้งปี 56 จะขยายตัวได้เพียง 2% เท่านั้น ซึ่งส่งผลต่อเนื่องมายังเศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้จะมีอัตราการเจริญเติบโตเพียง 3.1%
  • นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาส 4 ลดลงไปถึง 1.4% ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า จะมีการปิดหน่วยงานนานเท่าใด

มูดีส์ คาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 3% หาไม่มีการปิดหน่วยงานรัฐ และหากมีการปืดหน่วยงานรัฐในวันที่ 1 ต.ค. เป็นเวลา 2 สัปดาห์ LLC คาดว่า การขยายตัวก็อาจจะลดลงไป 0.3% มาอยู่ที่ 2.3% ต่อปี

  • รมว.คลังญี่ปุ่น ระบุว่า ญี่ปุ่นอาจจะปรับลดภาษีนิติบุคคลให้ลงมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่นๆ หากทรัพยากรทางการเงินที่มีอยู่อย่างเพียงพอนั้น อยู่ในสภาพที่มั่นคง ท่ามกลางงบประมาณตึงตัว
  • ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดในแดนบวกวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.3% แตะ 313.81 เมื่อเวลา 08.06 น.ตามเวลาลอนดอน
  • เศรษฐกิจฝรั่งเศสกลับมาขยายตัวอีกครั้งในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงไตรมาสแรก หลังจากที่หดตัวลงในช่วง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทั้งนี้จีดีพีฝรั่งเศสที่ขยายตัวในไตรมาสที่แล้ว ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจของฝรั่งเศสที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของยูโรโซน สามารถรอดพ้นจากภาวะถดถอย
  • คณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนปรับตัวขึ้นแตะ 96.9 ในเดือนก.ย. จากระดับ 95.3 ในเดือนส.ค. นับเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 5 และเป็นอีกสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนกำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 98 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,312 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,333.54 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 10.61 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ