นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.41/43 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.30/32 บาท/ดอลลาร์
"หลักๆ คงเป็นเพราะตลาดยังคงกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ หรือต้อง shut down คงต้องดูกันต่อไปว่าจะไปในทางใด ดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ โดยเฉพาะในเอเชีย วันนี้ค่าเงินมาเลฯ และอินโดฯ ขยับขึ้นค่อนข้างจะหมด" นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าวันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มจะอ่อนค่าได้ต่อ โดยมองกรอบไว้ที่ 31.35-31.50 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.3888 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.42886% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.42351%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.74/76 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 98.65/68 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3494/3495 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3496/3499 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.2410 บาท/ดอลลาร์
- "พาณิชย์" จ่อเคาะลดเป้าส่งออกปี 56 เหลือโตแค่ 4% เหตุตลาดสำคัญ ทั้งสหรัฐฯ จีนกระทั่งอาเซียนพลาดเป้าเยอะ จากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ด้านปี 57 คาดโต 5-7%
- นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกทั้งปี 2556 เชื่อว่าขยายตัวไม่ถึง 4% ตามที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากตัวเลขการส่งออก 8 เดือน ยังขยายตัวเพียง 1.03% และยังไม่มีสินค้ากลุ่มไหน ที่จะขยายตัวได้สูงจนทำให้การส่งออกขยายตัวได้ถึง 4% มองว่า การส่งออกจะขยายตัวประมาณ 1-2% เท่านั้น
- "ประสาร" เผยนโยบายประชานิยมเพิ่มความเสี่ยงให้กับภาคหนี้ครัวเรือน ทำประชาชนขาดวินัยทางการเงิน แนะรัฐควรเพิ่มทักษะให้แรงงาน รองรับเทคโนโลยี พร้อมหนุนแผนลงทุน 2 ล้านล้าน ช่วยผลักดันค้าขายในเออีซี
- แบงก์ชาติเผยภาคธุรกิจปรับกลยุทธ์ช่วงเศรษฐกิจชะลอขอสินเชื่อธนาคารพาณิชย์เพิ่มมองเป็นโอกาสต้นทุนขยายกิจการไม่แพงและเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ชี้แนวโน้มสินเชื่อไตรมาส 4 สดใส แต่ยอมรับสินเชื่ออุปโภคบริโภคแผ่วจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 1% แตะที่ 139.42 จุด เมื่อเวลา 10.02 น.ตามเวลาโตเกียว เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง
- วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน ขณะที่ผู้นำพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าพวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 138 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,450 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,348.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ดีดขึ้น 14.95 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันในปริมาณมากที่สุดในโลก
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 102.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ย.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 108.63 ดอลลาร์/บาร์เรล