ทั้งนี้ SPV จะเป็นบริษัทที่ถือสัมปทานโครงการทวาย แทนบริษัท ทวาย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด(DDC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) ที่เป็นผู้รับสัมปทานการดำเนินโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของพม่า
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า เม็ดเงินที่ ITD ได้ลงทุนไปกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายก็จะได้รับคืนเมื่อมีการพัฒนาโครงการคืบหน้าต่อไป และ ITD ก็ยังได้สิทธิในการบริหารจัดการและลงทุนในกิจกรรมธุรกิจต่างๆ โดยจะมีการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะรายย่อย(SPC)เข้าไปลงทุนในโครงการต่าง ๆ ได้แก่ ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยระหว่างนี้จะมีการเจรจาหาผู้ร่วมทุนในแต่ละ SPC ที่จะแบ่งการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า, น้ำประปา, ถนน, นิคมอุตสาหกรรม และ Township, ท่าเรือ, รถไฟ และ โทรคมนาคม
ก่อนหน้านี้ ITD ระบุว่า บริษัทได้กระจายเงินลงทุนไปแล้ว 200 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของพม่า
ด้านนายประวีร์ โกมลกาญจน ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ทวาย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด กล่าวว่า ระหว่างนี้มีการเจรจาโครงการลงทุนลงตัวไปแล้วในหลายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจไฟฟ้าที่ ITD ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) , นิคมอุตสาหกรรมและTownship ซึ่ง ITD จับมือกับ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(ROJNA) , ถนน ได้ดึงเจ็ทเวย์จากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมด้วย รวมทั้งเจรจาการท่าเรือสิงคโปร์ และการท่าเรือแห่งประทศไทย เข้าร่วมธุรกิจท่าเรือในทวาย ส่วนโทรคมนาคมได้มีการหารือกับ บมจ.ทีโอที แล้ว
ทั้งนี้ หาก SPV มีการจัดตั้งแล้ว ทาง ITD จะยื่นข้อเสนอในการร่วมมือแต่ละ SPC ไปให้กับ SPV ซึ่งเป็นผู้บริหารหรือแกนกลางในการบริหารจัดการโครงการเศรษฐกิจพิเศษทวายได้ภายใน 3-4 เดือน
อนึ่ง โครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งอยู่เขตตะนาวศรีของพม่า มีพื้นที่ 204 ตร.กม. หรือ 124,500 ไร่ คิดเป็น 2.5 เท่าของพื้นที่อุตสาหกรรมใน จ.ระยอง โครงการนี้จะเป็นประตูเศรษฐกิจและเป็นจุดแข็งในการเชื่อมโยงเมืองเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง(GMS) บนระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้