(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 31.22/24 กลับมาอ่อนค่า ราคาทองร่วงหนุนแรงซื้อดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 2, 2013 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 31.13/15 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้บาทอ่อนจากประเด็นหลักคือราคาทองคำลงมาต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มีแรงซื้อดอลลาร์บาท จากเมื่อคืน Carry Over มาจนถึงเช้านี้ ประกอบกับดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับหลายๆสกุล"

สำหรับทิศทางค่าเงินบาทวันนี้ คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวจะอยู่ระหว่าง 31.15-31.35 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 31.2825 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.42641% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.44653%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.93 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3512 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 30.9525 บาท/ดอลลาร์
  • ธปท.เผย "หนี้ครัวเรือน" ไตรมาส 2 พุ่ง 1.3 ล้านล้านบาท เติบโต 15.7% "เช่าซื้อ-บัตรเครดิต" นำโด่ง นายแบงก์รับต้องระวังมากขึ้น กรุงไทยระบุเข้าตรวจสอบเครดิตบูโรถี่ยิบ เน้นลูกค้าที่เงินเดือนผ่านแบงก์ ชี้รากหญ้า กลุ่มเสี่ยง ส่วนกสิกรไทยเชื่อทั้งปีหนี้ครัวเรือนโต 9-10% ไม่น่าห่วง ขณะที่ไทยพาณิชย์รับชะลอสินเชื่อบุคคลตั้งแต่ไตรมาส 2
  • ก.ล.ต. "ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์" บรรลุข้อตกลง พร้อมลุยขายกองทุนรวมข้ามประเทศในอาเซียน โดยใช้มาตรฐานกลางกำกับดูแลธุรกรรม และคุณสมบัติของกองทุนรวมที่จะอนุญาตให้เสนอขายข้ามกัน
  • ธนาคารกสิกรไทย มองการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐอาจก่อให้เกิดความผันผวนของค่าเงินสกุลเอเชีย รวมทั้งค่าเงินบาทในระยะสั้น เนื่องจากตลาดยังจับตาดูว่าการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐจะยืดเยื้อหรือไม่ รวมถึงผลการเจรจาขยายเพดานหนี้ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ธนาคารจึงประเมินว่าค่าเงินบาทมีโอกาสเคลื่อนไหวระหว่าง 30.75-31.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จึงอยากแนะนำให้ภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากการปิดทำการหน่วยงานราชการสหรัฐบางส่วนในวันนี้ได้ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงเดินหน้าการซื้อสินทรัพย์ต่อไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับเพิ่มขึ้นเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการที่สหรัฐปิดหน่วยงานราชการบางส่วนจะส่งผลกระทบในวงจำกัด
  • วุฒิสภาสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณชั่วคราวฉบับที่มีการแปรญัตติจากสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งเมื่อคืนนี้ ตามเวลาไทย ด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 46 ขณะที่รัฐบาลได้เริ่มปิดหน่วยงานราชการบางส่วนตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐแล้ว (หรือตรงกับเวลา 11.00 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้)
  • สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.2 ในเดือนก.ย. จากระดับ 55.7 ในเดือนส.ค. นับเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบเกือบสองปีครึ่ง โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมอาจขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ฐานเงิน (monetary base) หรือปริมาณธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนอยู่ในมือประชาชนและธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งเงินฝากที่สถาบันการเงินสำรองไว้กับธนาคารกลางประจำเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 46.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 181.70 ล้านล้านเยน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน หลังจากบีโอเจเดินหน้าอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดภายใต้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุก
  • ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสหรัฐจะสามารถหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาร่างงบประมาณชั่วคราวได้โดยเร็ว โดย ณ เวลาประมาณ 20.10 น. ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ปรับตัวลง 32.00 ดอลลาร์ หรือ 2.41% สู่ระดับ 1,295.00 ดอลลาร์/ออนซ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ