"ในวันนี้จะประชุมหารือกับคณะทำงานกำกับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์ก่อนแล้วจะมีการแจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องติดตามและเชื่อว่าสหรัฐฯจะมีทางออกภายใน 1-2 วัน แต่ก็ต้องติดตามประเทศไทยเองก็ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าหารือ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยก็หวังว่าสถานการณ์และเหตุการณ์จะไม่เกิดเช่นเดียวกับของสหรัฐ แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายงบประมาณรายจ่ายฉบับใหม่ได้ เพราะในความเป็นจริงยังสามารถใช้งบประมาณรายจ่ายประจำไปพลางก่อนได้ และขณะนี้สำนักงบประมาณก็ได้เสนอต่อ ครม.ให้นำงบประมาณไปใช้ได้บางส่วน แต่อาจจะมีผลกระทบต่อโครงการใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในแผนของงบประมาณในปีที่ผ่านมา อาจมีส่วนทำให้เกิดการหยุดชะงัก ซึ่งก็หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีความชัดเจนออกมาโดยเร็ว
ส่วนของงานที่ต่อเนื่องจากปีงบประมาณที่ผ่านมายังสามารถเบิกจ่ายได้ โดยจะใช้เป็นลักษณะของงบสำรองก่อน ยกเว้นโครงการใหม่ที่อาจจะมีปัญหาซึ่งต้องขอดูในเนื้อหาและรายละเอียดก่อน
ในส่วนข้อเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอให้หยุดในวันที่ 30 ธ.ค.เพิ่มอีก 1 วันในเทศกาลขึ้นปีใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า คงจะต้องไปขอความเห็นจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) เพราะเท่าที่ทราบกันวันหยุดใช้ไปมากล้ว ก็ต้องตรวจสอบในขั้นตอนอีกครั้ง แต่ในหลักการแล้วอะไรที่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและรายได้ให้กับประเทศรัฐบาลก็ยินดีอยู่แล้ว