ทั้งนี้ มาเลเซียได้เสนอให้จัดตั้งเมืองยาง หรือรับเบอร์ ซิตี้ บริเวณชายแดน เป็นความร่วมมือกันระหว่างมาเลเซียกับไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ 2 ประเทศ ซึ่งล่าสุดได้สำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดตั้งแล้ว หากไทยกับมาเลเซียร่วมมือกันสำเร็จ จะทำให้อุตสาหกรรมยางของทั้งสองประเทศมีความเข้มแข็ง และช่วยยกระดับราคายางของทั้งสองประเทศด้วย โดยมาเลเซียต้องการให้ไทยป้อนวัตถุดิบให้ ซึ่งขณะนี้มาเลเซียผลิตถุงมือยางอันดับ 1 ของโลก และยังมีแผนที่จะผลิตยางรถยนต์ และอุตสาหกรรมปลายน้ำอื่นๆ จากยางด้วย
นอกจากนี้ ไทยได้ขอให้มาเลเซียพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าไทยผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ซึ่งมีข้อจำกัดให้การขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ได้เพียงปีละ 30,000 ตัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้ยกขึ้นหารือกับมาเลเซียมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงต้องการเห็นการแก้ไขปัญหานี้ให้เกิดผลโดยเร็ว โดยมาเลเซียรับที่จะนำเรื่องนี้ไปเสนอให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียพิจารณาต่อไป
สำหรับการก่อสร้างสะพานสุไหงโกลก-รันเตาปันจัง แห่งที่ 2 ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า จะเป็นผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่าย และเห็นควรที่จะเพิ่มความร่วมมือและสนับสนุนให้มีการพบปะระหว่างนักธุรกิจไทย-มาเลเซียให้มากขึ้น รวมทั้งยังได้ขอให้มาเลเซียเพิ่มการนำเข้าข้าวและน้ำตาลทรายจากไทยเพิ่มขึ้นด้วย
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะนำเรื่องต่างๆ ที่ได้มีการหารือกันในครั้งนี้ นำไปเป็นประเด็นในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ครั้งที่ 2 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ โดยจะจัดขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า เพื่อหารือในรายละเอียดและติดตามความคืบหน้าต่อไป