ทั้งนี้ประชาชนที่ตอบว่ากินเจนั้น ส่วนใหญ่ 80% ระบุว่าตั้งใจจะกินให้ครบทุกมื้อตลอดช่วงเทศกาล มีเพียง 20% ที่ระบุว่ากินเป็นบางมื้อ เพราะราคาอาหาร, ผัก-ผลไม้แพง, ค่าครองชีพสูง และไม่มีเวลาจัดหาอาหารเจ โดยประชาชนส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นการไปซื้ออาหารเจสำเร็จรูปตามร้านค้า รองลงมา คือ ซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเจกินเอง และไปบริโภคที่โรงเจ
ส่วนการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายโดยรวมในการซื้ออาหารเจช่วงปี 55 กับปี 56 พบว่าส่วนใหญ่ยังซื้ออาหารเจในปริมาณที่เท่าเดิมหรือใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ค่าใช้จ่ายในการกินเจเพิ่มสูงขึ้น โดยในปีนี้สำรวจพบว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลกินเจประมาณ 40,155 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากปี 56 ที่มีเม็ดเงินสะพัดอยู่ที่ประมาณ 37,700 ล้านบาท
ประชาชนที่ตอบแบบสอบถามยังต้องการให้รัฐบาลช่วยดูแลในช่วงเทศกาลกินเจ ดังนี้ 1.ดูแลราคาอาหารเจปรุงสำเร็จ, ผัก-ผลไม้ ไม่ให้แพงเกินจริง 2.ดูแลเรื่องความสะอาดในการปรุงอาหาร 3.ดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดอัคคีภัย และ 4.ดูแลสอดส่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในช่วงดังกล่าว