ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเห็นว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรค 9 บัญญัติแต่เพียงว่าการพิจารณางบประมาณรายจ่ายของรัฐสภา ศาล และองค์กรตามวรรค 8 หากองค์กรนั้นเห็นว่างบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรให้ไม่เพียงพอ ให้สามารถเสนอคำขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการได้โดยตรง
ทั้งนี้ เพื่อให้คณะกรรมาธิการซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติได้พิจารณาอย่างรอบคอบว่าการที่ฝ่ายบริหารได้ปรับลดงบประมาณขององค์กรดังกล่าวเป็นการแทรกแซงความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ และเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ของศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)หรือไม่ โดยมิได้มีบทบังคับเด็ดขาดให้คณะกรรมาธิการต้องเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นในการแปรญัตติแต่อย่างใด
สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงาน ป.ป.ช.มีโอกาสชี้แจงแสดงเหตุผลการขอเพิ่มงบประมาณต่อคณะอนุกรรมาธิการ ซึ่งตั้งขึ้นโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญแล้ว และคณะกรรมาธิการวิสามัญได้รับรายงานของคณะอนุกรรมาธิการถึงเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าวประกอบการพิจารณาแล้ว จึงไม่ปรากฎเหตุที่เป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่เนื่องจากบทบัญญัติมาตรา 168 วรรค 8 มีวัตถุประสงค์ให้คณะกรรมาธิการให้ความเป็นธรรมแก่หน่วยงานดังกล่าว จึงควรให้หน่วยงานดังกล่าวมีโอกาสแสดงเหตุผลและความจำเป็นต่อคณะกรรมาธิการได้โดยตรง