สำหรับปัจจัยที่จะกระทบราคาทองคำ คือ ปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งประเด็นนี้จะส่งผลบวกในระยะสั้นต่อราคาทองคำต่อไปจนกว่าจะมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ให้มากกว่า 16.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะสร้างความผันผวนได้มากทันทีที่มีการอนุมัติเกี่ยวกับเพดานหนี้ รวมถึงประเด็นในเรื่องการลด QE จะสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับการลงทุนในทองคำช่วงสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า หลังจากประเด็นเพดานหนี้สิ้นสุดลง
ทั้งนี้ มองกรอบราคาทองคำในเดือนต.ค.ที่ 1,260-1,380 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทที่ 18,750-20,600 บาท อิงค่าเงินบาทที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นช่วงราคาทองยังผันผวนมาก ควรตั้งจุด stop loss ทุกครั้งเข้าเร็วออกเร็วเพราะโอกาสที่จะผันผวนสูงโดยเฉพาะช่วงค่ำคืนสำคัญที่จะมีข่าวต่างๆ ประกาศออกมา เช่น เส้นตายในการปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐวันที่ 17 ต.ค.นี้ ควรปิดความเสี่ยงไม่ถือข้ามคืน
อย่างไรก็ตาม ช่วงไตรมาส 4 ยังพอมีปัจจัยบวกอยู่บ้าง เพราะข้อมูลจากสภาทองคำโลกคาดช่วงปลายปีอินเดียมีความต้องการทองคำทั้งใช้เทศกาลแต่งงาน ปีใหม่ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบปีก่อน ดีมานด์ก็จะเพิ่มเข้ามาหนุนตลาดอยู่
"ปีหน้ามองโอกาสทองจะหลุด 1,200 ดอลลาร์ก็มี ถ้าหลุด 1,260 ลงมา แต่ถ้าไม่หลุด 1,260 โอกาสที่จะสร้างฐานขึ้นก็มี แต่ถ้าหลุด 1,200 ก็จะไป low เดิมที่ 1,180 ดอลลาร์"น.ส.ณัฐฑี กล่าว