นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.44/46 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.38/40 บาท/ดอลลาร์ ตามทิศทางราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงในช่วงท้ายตลาด
"ราคาทองปรับตัวลดลงในช่วงท้ายตลาด และก็มีการคาดการณ์เกี่ยวกับรายงานของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ในคืนนี้ว่าจะออกมาดี ทำให้มีการเก็งกำไรกันไปล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเช้าว่าดอลลาร์น่าจะกลับมาแข็งค่า...มีแรงขายในส่วนที่ซื้อมาออกไปบ้างพอลงมาแตะ 31.40 บาท/ดอลลาร์ก็ขึ้นไปใหม่"นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ ต้องรอดูผลของรายงาน FOMC คืนนี้ก่อน ดังนั้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ระหว่าง 31.40-31.60 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.35 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 97.20/23 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3528 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3568/3569 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,434.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด, +0.04% มูลค่าการซื้อขาย 34,034.28 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 461.04 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดเล็กที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคงมีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ในพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ระหว่างวันที่ 9-18 ต.ค.นี้
- บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองไตรมาส 4/56 ในปีนี้ยังอยู่ในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,200-1,430 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และมีโอกาสหลุดระดับ 1,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์อีกครั้ง ในปีหน้า ปัจจัยที่จะกระทบราคาทองคำ คือ ปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งประเด็นนี้จะส่งผลบวกในระยะสั้นต่อราคาทองคำต่อไปจนกว่าจะมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ให้มากกว่า 16.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะสร้างความผันผวนได้มากทันทีที่มีการอนุมัติเกี่ยวกับเพดานหนี้ รวมถึงประเด็นในเรื่องการลด QE จะสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับการลงทุนในทองคำช่วงสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า หลังจากประเด็นเพดานหนี้สิ้นสุดลง
- หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจร่วมกับศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPURC) เปิดผลสำรวจความเห็นของผู้บริหารบริษัทเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจและธุรกิจ หรือ CEO Sentiment Index เดือน ก.ย.-ต.ค.56 พบว่าดัชนีทางเศรษฐกิจในเดือนก.ย.เท่ากับ -7 จากดัชนีเศรษฐกิจในเดือนก่อนที่ระดับ -2 สะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงเดือนที่ผ่านมาค่อนข้างสูง และในเดือนต.ค.คาดการณ์ว่าจะมีค่า -8 ซึ่งการที่ดัชนีมีค่าติดลบต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของผู้บริหารว่าปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวจะมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วง 1 เดือนข้างหน้า
- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวในงานสัมมนา"โอกาสหรือวิกฤต คิดด้วยกองทุนรวม ในช่วงวิเคราะห์การลงทุนโค้งสุดท้ายปี 56" ว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้สิ่งที่ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามไปจนถึงปีหน้า คือเรื่องของมาตรการ QE และเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อเงินทุนที่จะไหลเข้าและไหลออก ทั้งนี้มองว่าภาพรวมของตลาดทุนไทยในช่วงที่เหลือของปีจะไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,260 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,326.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.761 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐจะยังคงจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นสำหรับหนี้สินของประเทศ แม้ว่าเกิดกรณีที่ไม่มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งจะทำให้ไม่มีผลกระทบต่ออันดับเครดิต
- ตลาดหุ้นเกิดใหม่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และความวิตกกังวลเรื่องปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังคงหาข้อสรุปไม่ได้