"มาตรการดังกล่าวนับว่าใช้ได้ผลในการตรวจสอบหาผู้กระทำผิด โดยจากการรายงานของกรมธุรกิจพลังงานพบว่า ปริมาณการใช้ก๊าซมีความสอดคล้องกับความต้องการใช้ก๊าซทั้งในภาคขนส่งและภาคครัวเรือน แต่กระทรวงพลังงานยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ ยังคงต้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ในแต่ละจังหวัด ผ่านความร่วมมือของกรมธุรกิจพลังงาน พลังงานจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบสามารถเดินไปได้อย่างสมบูรณ์และยุติธรรมสำหรับทุกฝ่ายเพื่อเป็นการป้องปรามผู้ลักลอบกระทำความผิดอย่างเข้มงวดไม่ให้เกิดการกระทำผิดอีกในอนาคต
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า หากพนักงานสอบสวนสืบสวนถึงผู้ใดและพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จะดำเนินการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินคดี 55 ราย และมีโรงบรรจุก๊าซที่ถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ จำนวน 4 ราย
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางการปรับโครงสร้างธุรกิจก๊าซที่มีความบิดเบือนในการลักลอบใช้ก๊าซผิดประเภทให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะช่วยลดภาระของการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นการลดภาระของประชาชนในที่สุด