วิจัยกสิกรฯคาดกนง.พุธนี้คงดอกเบี้ย 2.50% เหตุโมเมนตัมศก.ไทยยังอ่อนแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 14, 2013 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 16 ต.ค.นี้ กนง.น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ท่ามกลางโมเมนตัมของเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแรง ซึ่งส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2556 ลงจาก 4% เหลือ 3.7% แม้ว่าภาคการส่งออกจะเริ่มฟื้นตัว ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีความชัดเจนมาก

ทั้งนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ทรงตัวอยู่ระดับต่ำและคงยังไม่เป็นประเด็นที่ต้องกังวลในระยะข้างหน้า ก็คงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทางการสามารถประคองแรงส่งการผ่อนคลายนโยบายการเงินได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีช่องว่างเพียงพอที่จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไม่เป็นไปดังที่คาด ท่ามกลางการฟื้นตัวที่เปราะบางของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นวิกฤติด้านการคลังของสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลาย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คงได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองที่นำไปสู่การปิดตัวลงบางส่วนของหน่วยงานภาครัฐ และส่งผลให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐจำนวนมากต้องหยุดงานชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดโดยไม่ได้รับค่าจ้าง นอกเหนือไปจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ภาคเอกชนอาจต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาดการเงิน

ดังนั้น หากผลกระทบของปัญหาวิกฤติการคลังของสหรัฐฯ ยืดเยื้อออกไป และส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ก็เชื่อว่า กนง.ยังคงมีช่องว่างทางนโยบายเพียงพอที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีกหากจำเป็น เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดการเงินที่มีโอกาสทยอยตึงตัวขึ้น หากทางการต้องการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ก็คงต้องเผชิญกับข้อจำกัดของการส่งผ่านนโยบายการเงินในระดับที่เข้มข้นขึ้น

"การฟื้นตัวที่ค่อนข้างล่าช้าของการส่งออก ประกอบกับการใช้จ่ายของภาคเอกชนภายในประเทศที่ชะลอตัวลง คงทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2556 สามารถขยายตัวได้ราว 3.7% (กรอบคาดการณ์ 3.5-4.0%) ต่ำกว่าศักยภาพการเติบโตของประเทศในระยะยาวที่ประมาณ 4.5% อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ กนง.ยังคงต้องรักษาความต่อเนื่องของสภาวะผ่อนคลายทางการเงินผ่านการคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย" เอกสารเผยแพร่ระบุ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่มีความผันผวน และผลกระทบที่มีต่อค่าเงินและตลาดทุนของประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย นอกเหนือจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงก็คงจะเป็นปัจจัยท้าทายการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า เนื่องจากจะสร้างความซับซ้อนให้กับธนาคารแห่งรประเทศไทย(ธปท.) ในการเลือกการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หากสถานการณ์เศรษฐกิจคู่ค้าหลักไม่สามารถประคองทิศทางทรงตัวหรือทยอยดีขึ้นได้ตามคาด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ