นายกัญจน์ ทัตติยะกุล ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า ถือเป็นชัยชนะของชุมชนที่ได้ทำงานกันมาอย่างหนัก โดยมีการเก็บข้อมูลต่างๆในเรื่องผลกระทบต่อพื้นที่แหล่งผลิตอาหารมานานกว่า 2 ปี และยังได้มีการยื่นรายชื่อประชาชนกว่า 6,000 คนที่ลงชื่อผ่าน Change.org/stopcoal ให้คชก. พิจารณาว่ามีคนทั่วประเทศคัดค้านโครงการนี้ ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านรู้สึกโล่งใจและมีกำลังใจในการทำข้อมูลต่างๆมากขึ้น
“ชัยชนะครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกคนที่ทำงานในพื้นที่ จนเราสามารถล้มโครงการไฟฟ้าถ่านหินได้สำเร็จ"นายกัญจน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงยังไม่สามารถวางใจได้ เพราะโครงการยังไม่ถูกยกเลิก เชื่อว่าหากเรื่องเงียบเมื่อใด บริษัทดังกล่าวก็จะเสนอโครงการได้อีก และมีโอกาสพลิกผันเป็นอื่นได้ เพราะมีปัจจัยแทรก จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันติดตามเรื่องนี้
“กติกาการทำ EHIA ในประเทศไทยไม่เป็นธรรม เพราะยังเปิดโอกาสให้บริษัทเสนอ EHIA มาได้เรื่อยๆ จนกว่าจะผ่าน ทำให้ชาวบ้านต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเหนื่อยทุกครั้งเพื่อหาข้อมูลมาคัดค้าน ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม เพราะเหมือนกติกานี้มีแค่เสมอกับแพ้ คือถ้ายังไม่ผ่านก็ยังไม่ต้องสร่าง แต่ถ้าผ่านแล้วก็สามารถสร่างได้เลย เพราะไม่มีการระบุเด็ดขาดว่าหากไม่ผ่านการอนุมัติต้องยกเลิกโครงการทันที อีกทั้งขั้นตอนการพิจารณาก็ไม่มีเป็นธรรมเพราะเป็นการตัดสินอนาคตของชุมชนไปอยู่กับการตัดสินใจของคนนอกพื้นที่โดยไม่มีตัวแทนชุมชนเลย ดังนั้นต้องมีแก้ไขกฎเกณฑ์เหล่านี้ให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น"