สำหรับราคาที่เสนอซื้อนั้น ข้าวหอมมะลิ เสนอส่วนต่าง ลบ 6-6.5 บาท/กก. ส่วนข้าวขาว 5% เสนอ ลบ 1.7-2.5 บาท/กก. ซึ่งคณะกรรมการฯจะต่อรอง และเสนอรมว.พาณิชย์พิจารณาในสัปดาห์หน้า
อนึ่ง กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดให้ผู้ประกอบการข้าว เข้าร่วมประมูลซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลผ่าน AFET เป็นชนิดข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 และข้าวขาว 5% จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 55/56 มีระยะเวลาส่งมอบเดือนธ.ค.56-ก.พ.57
"การประมูลครั้งนี้ จะเป็นการเสนอราคาแบบให้ส่วนต่างกับราคาตลาด เพื่อเป็นค่าบริหารจัดการ ค่าขนส่ง ค่าปรับปรุงข้าวให้กับผู้ประมูล ซึ่งการประมูลซื้อจะทำอย่างโปร่งใส แข่งขันกันโดยเสรี เพราะเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาซื้อขาย โดยราคาจะเป็นไปตามความต้องการซื้อ และขายตามภาวะของสินค้า ทำให้เกิดราคาอ้างอิงที่เป็นที่ยอมรับ และใช้เป็นฐานการชำระค่าสินค้า โดยผู้ชนะประมูลจะรับมอบข้าวจากคลังที่รัฐเปิดประมูล"นายยรรยง กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้การประมูลครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมน้อย และส่วนใหญ่เป็นโรงสี มีผู้ส่งออกเพียง 1-2 ราย แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่กังวล จะเดินหน้าเปิดประมูลข้าวผ่าน AFET อย่างต่อเนื่อง อาจจะดำเนินการทุกๆ 2-3 สัปดาห์ และเปิดประมูลคราวละไม่มาก เพื่อกระจายให้ผู้ซื้อรายเล็กสามารถซื้อได้อย่างทั่วถึง ที่สำคัญ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดข้าวโลกว่าไทยมีการซื้อขายข้าวสต๊อกรัฐบาลจริง และราคาที่เสนอซื้อจะเป็นราคาอ้างอิงข้าวโลกล่วงหน้าในอีก 2-3 เดือน เพราะจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือน ธ.ค.56-ก.พ.57
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดโรดโชว์ประมูลข้าวผ่าน AFET ไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น สุพรรณบุรี นครปฐม นครสวรรค์ พิษณุโลก พิจิตร ฯลฯ เพื่อเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลด้วย
ส่วนการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไปนั้น ในเดือนพ.ย.นี้ จะเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐ โดยจะเน้นข้าวที่ไม่ได้ประมูลผ่าน AFET เช่น ปลายข้าว ข้าวเหนียว ข้าวหอมปทุมธานี ข้าวหอมจังหวัด เป็นต้น