ด้านนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้เจรจากับกระทรวงการคลังแล้วครั้งหนึ่ง และให้ ร.ฟ.ท.ไปจ้างที่ปรึกษาประเมินมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าว เพื่อกำหนดรูปแบบการแลกหนี้ว่าเป็นเท่าใดจึงจะเหมาะสม หากพบว่ามูลค่าทรัพย์สินสูงกว่าหนี้สิ้นก็สามารถปรับลดระยะเวลาเช่าจากเดิมที่คาดว่าจะเช่าระยะยาว 50 ปี ต่ออีก 50 ปี เป็นเหลือ 30 ปี ต่ออีก 30 ปี หรือจะจ่ายผลตอบแทนให้กับ ร.ฟ.ท.ในปีท้ายๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม คาดว่าจะใช้เวลาในการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน 1 เดือน
"ผมไม่ต้องการให้ ร.ฟ.ท.เป็นหนี้ หาก ร.ฟ.ท.มีหนี้เป็นศูนย์ จะสามารถเดินหน้าทำงานอื่นๆ ได้อีกมาก โดยที่ผ่านมามีหนี้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท เป็นหนี้ที่รัฐบาลให้ ร.ฟ.ท.กู้เพื่อมาอุดหนุนโครงการรถไฟฟรี ส่วนการเช่าระยะยาวจะไม่ใช่การโอนสิทธิ และในอนาคตเมื่อล้างหนี้แล้วรัฐบาลต้องกำหนดให้ชัดเจนเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รัฐจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ไม่ใช่ให้ ร.ฟ.ท.รับภาระจากการควบคุมอัตราค่าโดยสารที่ต่ำกว่าต้นทุนเหมือนในปัจจุบัน" นายประภัสร์ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.มีปัญหาขาดแคลนบุคลากรประมาณ 4,000 ราย รวมทั้งรถจักรและขบวนรถไฟไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยมีความต้องการหัวรถจักรอีก 218 คัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดซื้อแล้ว 77 คัน ขบวนรถขนส่งผู้โดยสาร 430 ตู้ อยู่ระหว่างจัดซื้อ 115 ตู้ ขบวนรถขนส่งสินค้า 3,444 ตู้ อยู่ระหว่างจัดซื้อ 308 ตู้ โดยจำนวนรถดังกล่าวจะสามารถรองรับการให้บริการถึงปี 2568