(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิดตลาด 31.07/08 ตลาดรอผล FOMC คืนนี้-จับตา Flow สิ้นเดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 30, 2013 11:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.07/08 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.04/06 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาทำให้เงินบาทไปทำไฮที่ระดับ 31.11 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะกลับลงมาอยู่ที่ 31.05/07 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้เงินบาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอผลประชุม FOMC คืนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดบ้านเราพรุ่งนี้เช้า" นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดน่าจะขึ้นอยุ่กับผลประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ซึ่งคาดว่ายังไม่มีอะไรชัดเจนมากนัก คงยื้อไปพิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องการไหลเข้า-ออกของเงินทุนต่างประเทศในช่วงสิ้นเดือน

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.00-31.15 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 31.0610 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.49461% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.47934%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.24 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 97.60/63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3735 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3767/3770 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 31.0710 บาท/ดอลลาร์
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 20 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,480 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,351.74 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 2.17 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
  • China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.39% แตะที่ 6.1412 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
  • กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 1.5% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ขณะที่ดัชนีผลผลิตในภาคโรงงานและเหมืองแร่อยู่ที่ระดับ 98.5 เทียบกับฐาน 100 ในปี 2553 ส่วนดัชนีการส่งออกภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.6% สู่ระดับ 97.0 และดัชนีสต็อกสินค้าคงคลังลดลง 0.2% แตะที่ 108.3
  • ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,562.77 จุด ลดลง 27.77 จุด หรือ -0.60%, ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 20,929.01 จุด เพิ่มขึ้น 358.73 จุด หรือ +1.74%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,208.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.97 จุด หรือ +0.03%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,815.65 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,846.54 จุด เพิ่มขึ้น 39.96 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,543.46 จุด เพิ่มขึ้น 3.65 จุด หรือ +0.06%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,128.86 จุด ลดลง 5.01 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,051.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,325.98 จุด ลดลง 70.06 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,420.98 จุด เพิ่มขึ้น 13.15 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,415.50 จุด ลดลง 25.90 จุด หรือ -0.48%
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,680.35 จุด พุ่งขึ้น 111.42 จุด หรือ +0.72%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,771.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.84 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,952.34 จุด เพิ่มขึ้น 12.21 จุด หรือ +0.31%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้หลังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนในยุโรป โดยดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 320.77 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,278.09 จุด เพิ่มขึ้น 26.48 จุด หรือ +0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,022.04 จุด เพิ่มขึ้น 43.39 จุด หรือ +0.48%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,774.73 จุด เพิ่มขึ้น 48.91 จุด หรือ +0.73%
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 80 เซนต์ แตะที่ 97.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียในวันนี้ เนื่องจากการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐอาจเพิ่ม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการน้ำมันในสหรัฐกำลังชะลอตัวลง
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้หลังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้าน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,345.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 4.6 เซนต์ ปิดที่ 22.492 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค.ร่วงลง 11 ดอลลาร์ ปิดที่ 1461.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 747.05 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะที่ตลาดจับตาดูการประชุมเฟดว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หรือไม่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 98.11 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 97.67 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8986 ฟรังค์ จากระดับ 0.8943 ฟรังค์ ส่วนยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3748 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3807 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.6047 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6159 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.9481ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9581 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดลดลงเช้านี้เนื่องจากมีแรงซื้อหลังธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ประกาศเกี่ยวกับการดำเนินการซื้อพันธบัตร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 330 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาวปิดที่ 0.600% ลดลง 0.005% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.13 จุด แตะที่ 145.05 ที่ตลาดหุ้นโตเกียว

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ