นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารความเสี่ยง KTB เปิดเผยถึงผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index(KTBI) ที่ได้จากการสำรวจความเชื่อมั่นของลูกค้านักธุรกิจทั่วประเทศเป็นประจำทุกไตรมาส พบว่าดัชนีไตรมาส 3/56 ลดลงจากระดับ 53.75 ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ระดับ 51.66 เนื่องจากนักธุรกิจส่วนใหญ่มองว่าอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศยังคงซบเซา ประกอบกับเกิดเหตุอุทกภัยในหลายจังหวัดของภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจพบว่าความเชื่อมั่นในอนาคตยังสูงกว่าความเชื่อมั่นปัจจุบัน สะท้อนว่าเศรษฐกิจในระยะต่อไปยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น แต่ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เช่น ปัจจัยการเมือง เศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว รวมทั้งความผันผวนของค่าเงิน เนื่องจากปัญหางบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลงเพียงชั่วคราว ซึ่งธนาคารได้แนะนำให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังและบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
นายพูลพัฒน์ กล่าวต่อว่า การที่นักธุรกิจมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเกิดจากการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/56 ที่ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของหนี้ภาคครัวเรือนและค่าครองชีพ ทำให้นักธุรกิจกังวลว่าจะส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย ขณะเดียวกันภาคการส่งออกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้จึงกระทบให้ความเชื่อมั่นด้านภาวะตลาดลดลงด้วย