นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.21/23 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.18/20 บาท/ดอลลาร์
แนวโน้มวันนี้เงินบาทมีโอกาสปรับตัวอ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค หลังจากที่เมื่อวันศุกร์สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีขึ้น ทำให้มีการประเมินกันว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะยกเลิกการใช้มาตรการ QE เร็วขึ้น จึงส่งผลให้เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะที่ยังต้องจับตาปัจจัยการเมืองภายในประเทศของไทยเองในการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้วยเช่นกัน
"วันนี้อาจอ่อนค่าได้อีกเล็กน้อยตาม trend ในภูมิภาคที่กลับมาอ่อนค่า หลังจากเมื่อวันศุกร์ตัวเลขของสหรัฐออกมาดี โชว์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัว ที่คาดกันก็อาจจะเลิก QE เร็วกว่าที่คาดจึงทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ส่วนการเมืองบ้านเราอาจจะส่วนให้บาทอ่อนได้บ้าง แต่คงต้องรอความชัดเจนในวันนี้อีกที" นักบริหารเงิน ระบุ
พร้อมคาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.73/75 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 98.30 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3499/3502 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3524 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.1900 บาท/ดอลลาร์
- จับตาสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าจะมีการยกระดับเคลื่อนไหวการชุมนุมไปในทิศทางที่เข้มข้นมากขึ้นอย่างไร
- นักวิชาการชี้ทางออกให้รัฐบาลนิรโทษเฉพาะคดีการเมืองที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ห่วงนองเลือด หากล้างผิดต่อคดีคอร์รัปชัน กับผู้สั่งการ ระบุหากปัญหาการเมืองยืดเยื้อรุนแรงฉุดเศรษฐกิจไตรมาส 4 ติดลบ ส่งผล “จีดีพี”ปีนี้โตต่ำกว่าร้อยละ 3.5 และกระทบต่อเนื่องถึงกลางปีหน้า
- นักเศรษฐศาสตร์ หวั่นดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลพุ่งต่อเนื่อง กระทบความเชื่อมั่นทำเงินไหลออก ฉุดเงินเฟ้อพุ่ง ส่งผล "แบงก์ชาติ" ต้องขยับดอกเบี้ย ยกกรณีปี 2548 ตัวอย่าง ห่วงขาดดุล 3 เด้ง ทำไทยส่อเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจได้ ด้าน "ศูนย์วิจัยกสิกรฯ" หวั่นอนาคตกระทบเงินสำรองฯ ลดต่อเนื่อง
- สำนักวิจัยซีไอเอ็มบีประเมินการคงมาตรการ QE ต่อไปของเฟดเพื่อรอตัวเลขเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย คาดเริ่มลดได้ไตรมาสแรกของปีหน้าหลังแก้ปัญหาเพดานหนี้ผ่านพ้น แต่ภาคส่งออกไทยอาจได้รับผลดีไม่มากนัก เหตุใช้เทคโนโลยีต่ำแนะเร่งพัฒนา
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค. ขณะสกุลเงินยูโรยังคงร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ภายหลังตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวแตะ 56.3 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 55.4
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 50 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,230 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,324.66 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 5.41 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะลดดอกเบี้ย ซึ่งเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ราคาน้ำมันดิบที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและน่าดึงดูดใจลดลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่นๆ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังถูกกดดันจากอุปทานที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย