"เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ เพราะจังหวะนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดในเชิงเศรษฐกิจที่หลายประเทศจะเข้ามาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเราเกิดปัญหาทะเลาะกัน จนเขาไม่อยากเข้ามาลงทุนอย่างในเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่มีการเผากรุงเทพฯ เขาก็ตัดสินใจเลือกไปลงทุนที่ฟิลิปปินส์แทนที่จะมาไทย" นายกอบศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาส 3/56 ที่ผ่านมา การผลิต การบริโภค การลงทุน และการส่งออก ต่างอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดว่าช่วงไตรมาส 3/56 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 2-3% ส่งผลถึงการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยทั้งปี ทำให้คาดว่าจะไม่สามารถเติบโตได้มากกว่า 4% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังมีอัตราการเติบโตราวเดือนละ 25-27% เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น ส่วนการลงทุนจากต่างประเทศยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความคืบหน้าโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟใต้ดิน โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งประเทศต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพในการเข้ามาขับเคลื่อน แต่ขณะนี้รัฐบาลมีความกังวลใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองจึงต้องกลับไปในความสนใจในส่วนนั้น ทำให้สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในโครงการดังกล่าว รัฐบาลก็จะชะลอในส่วนนี้ไป ส่งผลให้ผู้ที่เข้ามาลงทุนเกิดความกังวลใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาล มองว่าหากรัฐบาลยังแก้ไขปัญหาเรื่องการเมืองไม่ได้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจากนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวมากกว่าเดิม ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 57 ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ 5% กลับลดลงมาประมาณ 1-1.5% หรือมาอยู่ที่ 3.5-4%
นอกจากนี้ ในส่วนของตลาดหุ้นไทยปีนี้คาดว่าดัชนียังคงมีความผันผวน โดยเคลื่อนไหวจากความกังวลใจของนักลงทุนต่อสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งนอกเหนือจากการควบคุมจากนักลงทุน จากปกตินักลงทุนจะดูจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี จึงแนะนำนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในช่วงนี้ และควรระมัดระวังการเข้าไปลงทุนให้มาก