ด้านนางจินตนา ชัยยวรรณาการ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า อาเซียน-อินเดียได้เจรจาเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนมาตั้งแต่ปี 51 และเพิ่งเจรจาสำเร็จเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งในการเปิดเสรีไทยได้เปิดเสรีให้กับอินเดียใน 7 สาขาบริการ ได้แก่ บริการธุรกิจ การสื่อสาร ก่อสร้างและวิศวกรรม การจัดจำหน่าย การท่องเที่ยวและนันทนาการ วิศวกรรมกีฬา และการขนส่ง โดยให้สามารถถือหุ้นได้ไม่เกิน 49% ซึ่งน้อยกว่าที่เปิดเสรีในอาเซียนที่ให้ถือหุ้นได้ 70%
"ไม่ต้องกังวล เพราะในการเปิดเสรีกับอินเดียน้อยกว่าที่ไทยได้เปิดเสรีให้กับอาเซียน และการเปิดเสรีส่วนใหญ่เป็นสาขาย่อยๆ ในแต่ละสาขาบริการที่เปิดเสรี ขอให้คนไทยไม่ต้องกังวลว่าเปิดเสรีแล้วจะกระทบต่อการประกอบธุรกิจของคนไทย และในสาขาที่เปิดเสรี ส่วนใหญ่ก็เป็นสาขาที่ไทยแข่งขันได้อยู่แล้ว" นางจินตนา กล่าว
ทั้งนี้ อินเดียเปิดเสรีให้นักลงทุนอาเซียนสามารถเข้าไปถือหุ้นได้ 49-51% ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจบริการต่างๆ เช่น ด้านการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร การจัดประชุมสัมมนา บันเทิง นักกฎหมาย การก่อสร้าง โรงพยาบาล ที่ไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันอยู่แล้ว ส่วนในด้านการลงทุนได้ตกลงที่จะให้ส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน เพิ่มการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน และมีข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้ไทยมีโอกาสเข้าไปลงทุนได้มากขึ้น เพราะอินเดียต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก