นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 31.30/32 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.25/27 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 31.25 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 31.33 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้บาทวิ่งแคบๆ ระหว่างวันมีแรงซื้อ แรงขายปนๆ กันไป ตอนช่วงที่นายกฯ ออกมาแถลง ก็เหมือนมีคนพยายามจะเล่นข่าวนี้ แต่สุดท้ายบาทก็กลับมานิ่งตามดอลลาร์ ปัจจัยตอนนี้คงเป็นเรื่องการประชุม ECB กับตัวเลข non farm payroll ของสหรัฐ ซึ่งหาก ECB ลดดอกเบี้ย ก็อาจจะทำให้ยูโรอ่อนต่อไปอีก" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.25-31.35 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 98.63 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3517 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3514 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,425.23 จุด ลดลง 9.74 จุด, -0.68%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 594.14 ลบ.(SET+MAI)
- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงยืนยันรัฐบาลจะไม่นำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนี้กลับมาพิจารณาอีกอย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนยุติการชุมนุม เพื่อให้ประเทศได้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะขณะนี้การชุมนุมทางการเมืองมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และจะมีผลต่อกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศตามมา พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังรุนแรงกับประชาชนที่ออกมาชุมนุมอย่างเด็ดขาด รวมทั้งจะไม่สั่งการให้มีการใช้กำลังจากทหารหรือกองทัพเข้ามาดูแลการชุมนุม โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกับข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
- ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฏร คนที่ 1 เป็นประธาน ส่วนใหญ่ลงมติเห็นด้วยให้ถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดอง-นิรโทษ 6 ฉบับออกจากสภา
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนต.ค.56 อยู่ที่ 76.6 ลดลงจากเดือนก.ย.56 อยู่ที่ 77.9
ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 66.6, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 69.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 92.7 โดยดัชนีทุกตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่จะเปิดเผยในคืนนี้จะขยายตัว 2% เมื่อเทียบกับการขยายตัว 2.5% ในไตรมาสก่อน ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ คาดว่า จะร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐคงจะไม่สามารถขยายตัวได้มากกว่านี้ และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป