นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.52/53 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.40/41 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับตัวอ่อนค่าไปทำไฮในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 31.63 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าและความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ
"เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าจากสองปัจจัยเรื่องดอลลาร์กลับมาแข็งค่า และสถานการณ์ตึงเครียดในประเทศ" นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดมาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ค่อนข้างดีเกินคาด ทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า แม้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมาตรการ QE ส่วนปัจจัยในประเทศคงต้องจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 31.50-31.70 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าได้อีกขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.03 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 98.18/20 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3357 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3427/3429 ดอลลาร์/ยูโร
จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3420 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.3730 บาท/ดอลลาร์
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงดิ่งลง 230 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,930 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,292.16 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 24.91 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบวันศุกร์(8 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะตัดสินใจลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หลังจากตัวเลขจ้างงานของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 322.72 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,260.44 จุด ลดลง 20.55 จุด หรือ -0.48% ดัชนี, DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,078.28 จุด ลดลง 2.75 จุด หรือ -0.03% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,708.42 จุด เพิ่มขึ้น 11.20 จุด หรือ +0.17%