ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวว่าภาครัฐตั้งมั่นอยู่ในการใช้กรอบของกฎหมายดูแลประชาชนให้ปลอดภัย ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลการชุมนุมไม่ใช้กำลังและความรุนแรง โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมจะเปิดเวทีการพูดคุยรับฟังปัญหาจากทุกอุตสาหกรรม และย้ำว่าทำเนียบรัฐบาลพร้อมเปิดประตูรับฟังความคิดจากภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมกันแก้ปัญหา อยากให้เอกชนระมัดระวังข่าวลือที่กระทบภาคการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจ ทั้งนี้เพียงแค่ขอให้เสนอความจริงไม่จำเป็นต้องบอกชอบรัฐบาลก็ได้
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์การชุมนุมยังไม่กระทบกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากนักเพราะสายการบินและยอดการจองห้องพักยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และหากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองอยู่ในวงจำกัดก็จะทำให้นักท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ที่ 26.3 ล้านคน สร้างรายได้ 1.8 ล้านล้านบาทตามเป้าหมาย
ส่วนนางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ พบว่านักท่องเที่ยวในกลุ่มยุโรปยังไม่ตก และยังมีกลุ่มประชุมที่จะเข้ามาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติสอบถามเข้ามาบ้าง แต่เมื่อพบว่าไม่มีอะไรรุนแรง อยู่ในวงจำกัด ก็เห็นว่าไม่เป็นไร กลัวอย่างเดียวคือการปิดสนามบินเท่านั้น
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีทองของนักท่องเที่ยวเข้าไทย มีนักท่องเที่ยวสอบถามบ้าง แต่ยังไม่มีการยกเลิกการจอง ขอเพียงไม่ให้รุนแรง การท่องเที่ยวเติบโตกว่า 20% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 13-15% โดยตลาดจีนเติบโตอย่างรวดเร็วมาก แต่อาจจะชะลอไปบ้างหลังจากจีนออกมาตรการเข้มงวดด้านการท่องเที่ยว
และนายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้คนไทยชะลอการท่องเที่ยวในประเทศ ขณะเดียวกันอยากให้มีการขยายมาตรการจูงใจด้านภาษีให้กว้างขวางมากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว เช่น การลดหย่อนภาษีถ้าซื้อทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงการกระตุ้นให้ออกคูปองให้ผู้เกษียณอายุท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น