รัฐบาลคาดเจรจาข้อตกลง FTA ไทย-อียูจะมีข้อสรุปได้ในปลายปี 57

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 13, 2013 12:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการเข้าพบของผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป (อียู) ด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง และรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลว่า ไทยขอบคุณที่สนับสนุนการผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (FTAไทย-อียู) เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน 2 ฝ่าย ซึ่งหวังว่าจะมีข้อสรุปได้ปลายปีหน้า

พร้อมกันนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยังได้หารือเรื่องความคืบหน้าในเรื่องความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป และการเจรจากรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านไทย-สหภาพยุโรป(PCA) ซึ่งจะเป็นอีกมิติหนึ่งของความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหภาพยุโรป

นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า หากสหภาพยุโรปยกเว้นการตรวจลงตราเชงเก็นให้ไทยจะช่วยกระตุ้นการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ประชาชนของไทยและยุโรปสามารถติดต่อกันได้อย่างใกล้ชิดและสะดวกมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากการที่ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้หนังสือเดินทางไทย ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยกระโดดสูงขึ้นถึงร้อยละ 85

รายงานข่าวแจ้งว่า นายอันโทนิโอ ทาญานี รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป พร้อมนักธุรกิจสำคัญของสหภาพยุโรปจะมาเยือนไทย ในวันที่ 16 พ.ย.56 นอกจากติดตาม FTA ไทย-อียู แล้ว จะมีการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหภาพยุโรปว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย

โดยมีสาระสำคัญ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายด้านการบริการการท่องเที่ยว การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนข้อมูลแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงฝ่ายวิชาการด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ การลงทุนขนาดกลางและขนาดย่อม การฝึกอบรม การปรับปรุงการบริการด้านการท่องเที่ยว

ส่วนอีกฉบับจะเป็นการลงนามกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) กระทรวงอุตสาหกรรม ในหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยการหารือเชิงนโยบายด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมระหว่างสหภาพยุโรปกับราชอาณาจักรไทย โดยมีสาระสำคัญ เป็นข้อตกลงที่ฝ่ายไทยและฝ่ายสหภาพยุโรปจะร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือด้านนโยบายการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยมีกระทรวงอุตสาหกรรมและกิจการวิสาหกิจของสหภาพยุโรป และกระทรวงอุตสาหกรรม โดย สสว.เป็นคู่ภาคี มุ่งเน้นการหารือเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในด้านนโยบายการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการส่งเสริมให้เกิดพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศไทยและสหภาพยุโรป

ทั้งนี้ จะมีการแต่งตั้งผู้แทนเพื่อทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบประเด็นที่กระทบต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของทั้งสองฝ่ายเป็นการเฉพาะ อาทิ การแต่งตั้ง SME Envoy ในกรณีของสหภาพยุโรป รวมทั้งการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อเป็นประธานร่วมในการหารือเชิงนโยบายด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ระหว่างสหภาพยุโรปกับราชอาณาจักรไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ