นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.60/62 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเช้าที่เปิดตลาดระดับ 31.57/59 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ 31.57 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ 31.62 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทแกว่งในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อแรงขายเข้ามาค่อนข้างหนาแน่นทั้งสองฝั่ง ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบเช่นเดียวกัน โดยนักลงทุนยังคงติดตามความชัดเจนของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ว่าจะมีการปรับลดขนาด QE ในเดือนหน้าหรือไม่
"วันนี้เงินบาทขยับเล็กน้อย เพราะมีแรงซื้อแรงขายพอๆ กันทั้ง 2 ด้าน ตลาดค่อนข้างแน่น บาทเลยไม่ขยับมากนัก ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคก็แกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ เช่นกัน ตอนนี้ปัจจัยการเมืองมีผลลดลงไปบ้าง นักลงทุนยังสนใจกับเรื่อง QE ของสหรัฐมากกว่า เพราะปัจจัยนี้เป็นประเด็นใหญ่มีผลต่อค่าเงินค่อนข้างมาก" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวแคบๆ อยู่ในกรอบที่ 31.60-31.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.53/55 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3420 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3435/.437 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,404.77 จุด ลดลง 8.31 จุด, -0.59% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 28,779 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,315.82 ลบ.(SET+MAI)
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เห็นภาวะเงินทุนไหลออก ตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างเรียบร้อยดี ไม่มีประเด็นปัญหาการตื่นตระหนก ซึ่งต่างชาติยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และส่วนตัวยังไม่เห็นเหตุอะไรที่น่าวิตกหรือจำเป็นต้องเข้าไปดูแลเป็นกรณีพิเศษ
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) เสนอให้ไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรองรับอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นว่า ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวได้
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี(TMB Analytics) มอง GDP ไตรมาส 3/56 อาจขยายตัวต่ำกว่า 3% หลังเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจรายเดือนยังคงอ่อนแอ ทั้งการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ความหวังจะพึ่งพาส่งออกและการท่องเที่ยวริบหรี่ คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ไม่สวยหรูที่ 3.1%
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปภาพรวมอัตราเงินปันผลตอบแทน (Market Dividend Yield) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) เทียบกับตลาดในภูมิภาค ณ สิ้นเดือนต.ค.56 พบว่าอัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.03% ลดลงจากเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 3.11% สำหรับ mai มีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 1.58%
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ร่วงลง โดยดัชนี Stoxx 600 อ่อนตัว 0.4% แตะ 320.53 เมื่อเวลา 08.10 น.ตามเวลาลอนดอน
ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทต่างๆ รวมทั้งข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนที่มีการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง
- ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในช่วงบ่ายวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัว 0.9% แตะ 138.59 เมื่อเวลา 13.53 น.ตามเวลากรุงโตเกียว เนื่องจากตลาดผิดหวังกับผลการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ไม่ได้มีการระบุขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อจำกัดบทบาททางเศรษฐกิจของรัฐบาล ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการประชุมเดือนธ.ค.
- คณะกรรมการบริการทางการเงินของเกาหลีใต้ (FSC) เตรียมอนุญาตให้นักลงทุนทำชอร์ตเซลล์หุ้นกลุ่มการเงินได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(14 พ.ย.)เป็นต้นไป หลังจากที่สั่งห้ามทำชอร์ตเซลล์มานาน 5 ปีตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อ ต.ค.51 โดยให้เหตุผลว่าขณะนี้ตลาดหุ้นมีความแข็งแกร่งมากพอ และเริ่มมีเสถียรภาพมาตั้งแต่เดือนก.ค.
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 58 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,830 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,281.33 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 6.28 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้