ส่วนกรณีที่แกนนำม็อบระบุว่าการชุมนุมจะยุติลงได้ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ นายธนวรรธน์ กล่าวว่า หากสามารถจบลงได้จริง โดยไม่มีความรุนแรง เพราะแกนนำม็อบมีความตั้งใจจะชุมนุมอย่างสงบ และเน้นอารยะขัดขืน ขณะที่รัฐบาลก็ยืนยันจะไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุน ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก โดยอาจกระทบต่อการบริโภค การท่องเที่ยว และการลงทุนเพียง 10,000-20,000 ล้านบาท และยังทำให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ 3.3% ส่วนปีหน้าโตได้ 5%
"หากการเมืองไม่สามารถจบลงด้วยดี และรัฐบาลอาจยุบสภา หรือนายกรัฐมนตรีลาออก จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่างกัน" นายธนวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีลาออก และมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ พรรคเพื่อไทยอาจเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเหมือนเดิม เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนเสียงไม่เพียงพอ จะส่งผลให้รัฐบาลยังคงเป็นพรรคเดิม และมีนโยบายทำงานเหมือนเดิม ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก และปีหน้าน่าจะโตได้ 5% หากยุบสภา โดยคะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำก็มีโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาล ซึ่งจะทำให้นโยบายการบริหารประเทศเปลี่ยนแปลง ก็ต้องดูต่อว่าจะมีนโยบายอย่างไร และมีผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร แต่ในการเลือกตั้งจะมีเงินสะพัด 40,000-50,000 ล้านบาท หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและพยุงเศรษฐกิจปีนี้ให้ขยับได้บ้าง