"โฆสิต"ห่วงขีดความสามารถส่งออกไทยกดดัน GDP ปี 57 โตต่ำกว่าเป้า 4-5%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 18, 2013 11:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)กล่าวในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2556"โมเดลใหม่ในการพัฒนา สู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพโดยการเพิ่มผลผลิต"ว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 57 ยังมีความน่าเป็นห่วงเรื่องการปรับตัวและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคส่งออกที่ยังมีภาระต้นทุนสูง เช่น การปรับค่าแรงงาน ส่วนตัวจึงไม่มั่นใจว่าการส่งออกของไทยจะสามารถปรับตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจากประเทศอุตสาหกรรมหลักที่คาดว่ามีทิศทางปรับตัวดีขึ้น หากภาคเอกชนไม่สามารถปรับตัวได้ทัน อาจส่งผลให้ปีหน้าเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ 4-5%

ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยถูกพัฒนาด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตที่มีการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติและนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ แต่ไม่ได้พัฒนาความรู้และเทคโนโลยีด้วยตัวเอง การพึ่งพาอาศัยตลาดส่งออกไปยังตลาดโลก และการอาศัยแรงงานจำนวนมากราคาถูก โดยละเลยเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ โมเดลดังกล่าวไม่ได้สร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยื่น ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทำให้ประเทศไทยติดกับดักประเทศที่มีฐานะปานกลาง เพราะไทยมีการใช้นโยบายประชานิยมหรือการใช้สินเชื่อเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่สามารถใช้ได้เพียงระยะสั้น เพราะสร้างความเสี่ยงต่อฐานะการคลังของภาครัฐ และเป็นแรงต้านไม่ให้ประเทศเจริญเติบโตได้ตามศักยภาพในระยะยาว เนื่องจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว ทำให้ประชาชนมีหนี้สินสูงขึ้น ฉุดรั้งการใช้จ่ายในประเทศชะลอลง สะท้อนให้เห็นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2556 ที่เศรษฐกิจชะลอตัวจากการบริโภคที่หดตัวลงชัดเจน

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าไทยกำลังเผชิญอุปสรรคที่เป็นข้อจำกัดต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาและเทคโนโลยี โดยจากรายงานของ World Economic Forum พบว่าการจัดอันดับการศึกษาของไทยอยู่ที่ 66 จาก 148 ประเทศทั่วโลก และอันดับการพัฒนาความพร้อมในการเข้าสู่เทคโนโลยีอยู่ที่ 78 จาก 148 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือว่าไทยยังมีความล้าหลังอย่างมากจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ไทยต้องเร่งแก้ไข

ดังนั้น ทีดีอาร์ไอจึงเสนอว่าไทยควรใช้โมเดลใหม่ในการพัฒนาประเทศแก่รัฐบาล ด้วยองค์ประกอบ 3 ประการ คือ 1.การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย 2.การสร้างความสมดุลระหว่างตลาดส่งออกโลก การลงทุนในภูมิภาค รวมถึงการสร้างกำลังซื้อในประเทศ และ 3.การเพิ่มผลิตภาพของแรงาน กระบวนการปรับค่าตอบแทน ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ