นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.80/82 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.64/66 บาท/ดอลลาร์
"บาทเช้านี้เปิดตลาดมาอ่อนค่าลง น่าจะมาจากปัจจัยทางฝั่งอเมริกาที่ขณะนี้นักลงทุนเริ่มกลับไปให้ความสนใจในเรื่องของ QE อีกครั้ง ทำให้ช่วงนี้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุล" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน มองว่า วันนี้การเคลื่อนไหวของเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า โดยมองกรอบไว้ที่ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์ แต่ในระหว่างวันหากเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 31.85 บาท/ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ก็มีโอกาสที่จะไปแตะระดับ 32 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 31.7850 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.36657% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.42807%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.39/42 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 99.93 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3423/3426 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3522 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.6740 บาท/ดอลลาร์
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับลง 248 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,580 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,252.64 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 26.83 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.761 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลงยกเว้นญี่ปุ่น โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ไม่รวมญี่ปุ่น ร่วงลง 0.7% แตะระดับ 471.67 จุด เมื่อเวลา 10.21 น.ตามเวลาโตเกียว หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจมีการลดขนาด QE ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะเงินเยนอ่อนค่า
- นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักตัวตามตลาดต่างประเทศ โดยเช้านี้ตลาดภูมิภาคต่างปรับตัวลงทั่วหน้า แนวเดียวกับตลาดสหรัฐฯ โดยกลับมากังวลเรื่อง QE อีกครั้ง หลัง FOMC ได้ออกมาบอกว่าถ้าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวก็จะชะลอการใช้ QE นอกจากนี้ตลาดบ้านเราก็มีปัจจัยการเมืองเป็นตัวกดดันอยู่ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,395-1,415 จุด
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับลง 248 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,580 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,252.64 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 26.83 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.761 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 93.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข่าวเกี่ยวกับการประชุมระหว่างชาติมหาอำนาจกับอิหร่านว่าด้วยแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ ท่ามกลางความคืบหน้าสู่การบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งดังกล่าว ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาพลังงาน
- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. เพราะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวลดลง 2.9% ส่วนราคาอาหารขยับขึ้น 0.1%
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐขยายตัว 0.4% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ดีดตัวขึ้น ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า การปิดหน่วยงานรัฐบางส่วนเป็นเวลา 16 วันในเดือนต.ค.นั้น ส่งผลกระทบน้อยมากต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ผิดกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทำให้ยอดขายสินค้าร่วงลงอย่างหนัก