เงินบาทเปิด 31.79/81 คาดวันนี้แกว่งแคบ กังวลการลดมาตรการ QE-การเมือง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 22, 2013 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.79/81 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.79/80 บาท/ดอลลาร์

ทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ คาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ นักลงทุนยังคงติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ รวมทั้งกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาส่งสัญญาณว่าจะลดขนาด QE ลงในเร็วๆ นี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีแนวโน้มในทิศทางที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นๆ

"วันนี้บาทน่าจะแกว่งแคบๆ ปัจจัยหลักๆ คงเป็นเรื่อง QE ของสหรัฐ และการเมืองในบ้านเรา" นักบริหารเงิน กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.75-31.85 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.22/24 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 100.90 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3472/3473 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3431 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.7880 บาท/ดอลลาร์
  • เวิลด์แบงก์รับส่งออกไทยทรุดกว่าที่คาด เตรียมปรับประมาณการจีดีพีทั้งปีลง พร้อมจับตาการเมืองหากรุนแรงกระทบเชื่อมั่น-ท่องเที่ยว แนะรัฐเร่งเบิกจ่ายพยุงเศรษฐกิจ ด้านกสิกรฯแนะแนวทางรับมือเงินทุนผันผวน
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)รายงานยอดคงค้างหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทั้งระบบจำแนกตามประเภทธุรกิจ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ พบว่า มีเอ็นพีแอลทั้งระบบเพิ่มขึ้น 2,431 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนหน้าที่มี 2.64 แสนล้านบาท หรือ 2.20% ของสินเชื่อรวมเพิ่มเป็น 2.66 แสนล้านบาท หรือ 2.22% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3 ปีนี้
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในเดือน ธ.ค. คลังจะปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ลงจากที่ประมาณการไว้เดิม 3.7% ต่อปี เป็น 3% หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับตัวเลขจีดีพีไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากการส่งออกขยายตัวได้ 0% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัว
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(21 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนคาดว่าอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ย.ปรับตัวลดลง 21,000 ราย สู่ระดับ 323,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 344,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว
  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะใช้เป็นเหตุผลในการเริ่มปรับลดขนาดมาตรการ QE
  • คณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 14 ต่อ 8 เสียง รับรองนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ตามการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา

ขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐจะเสนอชื่อนางเยลเลน ให้กับวุฒิสภาทั้งคณะพิจารณา ซึ่งหากวุฒิสภาให้การรับรอง นางเยลเลนก็จะดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนายเบน เบอร์นเก้ ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 31 ม.ค.57

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้เมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 95.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 141.50 จุด เมื่อเวลา 09.27 น.ตามเวลาโตเกียว โดยได้รับแรงหนุนจากการที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้ส่งออกในญี่ปุ่นดีดตัวขึ้น
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 14.4 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ระดับ 1,243.6 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) พิจารณาเรื่องการลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ