นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.84/85 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.81/87 บาท/ดอลลาร์ หลังจากนั้นเงินบาทก็อ่อนค่าขึ้นมาเรื่อยๆ มาทำ High อยู่ที่ระดับ 31.95 บาท/ดอลลาร์
"เปิดตลาดอยู่ที่ 31.84/85 แล้วก็มีแรงไล่ซื้อขึ้นมาเรื่อยๆ มาทำ High อยู่ที่ 31.95 จากประเด็นการเมือง เพราะดอลลาร์ก็มีอ่อนค่าบ้าง แต่เงินบาทยังอ่อนสวนทางคนอื่น" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้ประเด็นการเมืองน่าจะยังเป็นเรื่องใหญ่สำหรับวันนี้ เพราะภาพที่ออกไปสู่สายตาต่างชาติ ทำให้ Off Shore เริ่มจะชะลอขายดอลลาร์บาท ภาพที่ออกไปคิดว่ามีผลในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ ต้องจับตาดูว่าเงินบาทจะผ่านระดับ 32.00 บาท/ดอลลาร์ไปได้หรือไม่ โดยประเมินว่าระหว่างวันนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.84-32.00 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 31.9463 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.35336% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.44161%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.66 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 101.22/24 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3544 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.3472/3473 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.8190 บาท/ดอลลาร์
- มวลมหาประชาชนทะลักราชดำเนิน นายกฯกังวล-สั่งกองทัพเกาะติดสถานการณ์ วอนหันหน้าหาทางออกร่วมกัน "เพื่อไทย" ปูดแผนม็อบจ่อล้อมทำเนียบ-สภา "เสื้อแดง" ประกาศปักหลักราชมังคลาฯ 5 วัน
- "สภาวิชาชีพบัญชี" มองดอกเบี้ย-เงินเฟ้อเข้าสู่ขาขึ้นปีหน้า ผลจากสหรัฐลดคิวอี แนะ ผู้บริหาร-นักบัญชี บริษัทจดทะเบียน ป้องกันความเสี่ยง พร้อมวางแผนรับมือ 3 เทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก "ประชากร-เทคโนโลยีการขาดแคลนพลังงานและอาหาร" ชี้เป็นโอกาสสร้างความสามารถในการแข่งขัน มองเทรนด์ธุรกิจสุขภาพมาแรงสุด
- นักวิชาการคาดเศรษฐกิจปี 57 จะฟื้นตัว ชี้ความเสี่ยงมาจากนโยบายคลังที่เบิกจ่ายล่าช้า ส่วนการส่งออกยังคงหนุนได้ต่อ ด้านประเด็นการเมืองยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
- นายบุญชัย โชควัฒนา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชนแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองอย่างมาก ซึ่งหากรัฐบาลไม่สามารถทำงานได้คล่องตัวทางเลือกที่ดีที่สุด คือ การยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ทุกอย่างกลับไปเริ่มต้นใหม่ เนื่องจากเป็นแนวทางที่ง่ายที่สุดของรัฐบาลในการหาทางออก และที่สำคัญภาคเอกชนก็มีความพร้อมที่รับมือกับสถานการณ์หลังการยุบสภาอยู่ตลอดเวลาแล้ว พบ 4 กลไกขับเคลื่อนคือ การบริโภค-ส่งออก-ลงทุน—การใช้จ่ายของภาครัฐชะลอตัวพร้อมกัน ทำเศรษฐกิจไทยติดหล่ม “ดร.สมคิด"ชี้ส่งออกทรุดไม่ได้มาจากปัจจัยต่างประเทศ แนะให้เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่ “การเมือง" ทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น
- นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 พ.ย. ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของปีนี้ คาดว่า กนง.จะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% และคงไว้ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงกลางปี 2557 เพื่อช่วยพยุงภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ชะลอตัว และยังมีความเสี่ยงจากภาคการส่งออกที่ยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน
- นายบดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุมอยู่ตลอดเวลา เบื้องต้นยังคงเป็นมาตรการเดิมที่ทำอยู่ คือ มีการวางลวดหนามด้านหน้าที่ทำการ ตลท.ไว้
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงเมื่อสัปดาห์แล้ว โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชนในเอเชีย
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดเพิ่มขึ้นเช้านี้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นโตเกียวกระตุ้นแรงขายพันธบัตร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 331 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดภาคเช้าที่ 0.630 % เพิ่มขึ้น 0.005% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01 จุด แตะที่ 144.78 ที่ตลาดหุ้นโตเกียว
- อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์จีนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางคงจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดภาวะขาดแคลนเงินสดในขณะที่ใกล้จะสิ้นสุดเดือน พ.ย. โดยอัตราดอกเบี้ย repurchase rate ระยะ 7 วัน ปรับตัวลง 0.24% แตะ 4.64% เมื่อเวลา 10.09 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ หลังธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินเข้าระบบไปแล้ว 5.9 หมื่นล้านหยวน หรือ 9.7 พันล้านดอลลาร์ ในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา
- แกนนำม็อบต้านระบอบทักษิณนำมวลชนเคลื่อนที่ไปยังเป้าหมาย 13 จุด ขณะที่ คปท.เคลื่อนมวลชนยึดพื้นที่ 4 จุด ได้แก่ "สะพานชมัยมรุเชษฐ-สวนสัตว์เขาดิน-วัดเบญจมบพิตร" ส่วนอีกจุดสำคัญยังไม่ยอมเปิดเผย