เงินบาทวันนี้อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยวันนี้เงินบาทอ่อนค่าสุดที่ระดับ 31.99 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางวันพรุ่งนี้คาดว่าจะอ่อนค่าต่อ คงต้องดูว่าสามารถผ่านที่ระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ ไปได้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ค่าเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ประกอบกับปัจจัยในประเทศเรื่องการชุมนุมทางการเมืองกดดันจึงทำให้วันนี้เงินบาทอ่อนค่าไปมาก
"ตอนนี้เทรนด์เงินดอลลาร์ยังแข็งค่า เพราะตัวเลขสหรัฐฯ ออกมาค่อนข้างดี และมีการพูดเรื่องถอน QE กันมากขึ้น แต่ในส่วนของเงินบาท มีปัจจัยการเมืองเข้ามาเสริม จึงทำให้บาทอ่อนค่าลงไปเยอะกว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.90-32.05 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งหากขึ้นไปแตะที่ระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสจะอ่อนค่าไปได้อีก
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.69/71 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 101.66 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3517/3519 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3544 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,352.86 ลดลง 6.21 จุด (-0.46%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 32,181 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,477.58 ลบ.(SET+MAI)
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำการชุมนุมเวทีราชดำเนิน ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศยึดอำนาจรัฐด้วยมือเปล่าโดยสันติวิธี ตามที่ได้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างในการบุกเข้ายึดสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งจะค้างคืนและตั้งเวทีปราศรัยเชื่อมโยงกับเวทีที่ราชดำเนิน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมฯ จะไม่มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล เพราะถือว่าเป็นโมฆะ ไม่มีความชอบด้วยกฎหมายในการบริหารประเทศแล้ว เช่นเดียวกับสภาผู้แทนราษฎรที่โมฆะไปด้วยเช่นกัน
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี(TMB Analytics) มองปัจจัยเศรษฐกิจสนับสนุนการลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 27 พ.ย.นี้จากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยโดนความเสี่ยงรุมเร้า เงินเฟ้อพื้นฐานใกล้หลุดกรอบนโยบาย และการใช้จ่ายของรัฐที่ล่าช้าออกไป
- นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า หากชุมนุมโดยสงบไม่มีเหตุการณ์รุนแรง สถานการณ์เช่นนี้จะไม่กระทบเศรษฐกิจรุนแรง หรือทำให้เศรษฐกิจเสียหายไม่เกิน 50,000 ล้านบาท
- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ยอมรับว่าการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ภายในประมาณ 2 ปีนั้นเป็นเรื่องยากและต้องใช้ความพยายามสูงมาก แต่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางอาจบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ในช่วงปลายปีงบประมาณ 2557 หรือต้นปีงบประมาณ 2558
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB) เรียกร้องกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกใช้ความได้เปรียบจากการชะลอใช้นโยบายการเงินแบบปกติในสหรัฐ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาค เนื่องจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกยังคงอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุน เมื่อสหรัฐปรับลดขนาดของโครงการซื้อพันธบัตรลงในที่สุด และในขณะที่สหรัฐกำลังแก้ปัญหาเพดานหนี้ของรัฐบาล