(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.03/05 อ่อนค่าจากประเด็นการเมือง-ดอลล์แข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 26, 2013 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.03/05 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.97/99 บาท/ดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 2 เดือน

แนวโน้มยังคงเป็นเหมือนเมื่อวาน เพราะมีแรงกดดันที่ทำให้บาทอ่อนค่าจากแนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงแข็งค่า ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะมาทำให้เงินบาทกลับไปแข็งค่าในตอนนี้ โดยล่าสุดเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.09/10 บาท/ดอลลาร์

"ปัจจัยต่างประเทศตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้แข็งค่าเมื่อเทียบกับหลายๆ สกุล ส่วนบ้านเราเองก็มีปัจจัยการเมืองกดดันเงินบาทด้วยรวมกัน จึงทำให้เงินบาททะลุ 32 ไปตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.05-32.15 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.0425 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.31001% และ THAI BAHT FIX 6M 2.37504%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.53 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 101.69/71 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3537 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3517/3519 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 31.9370 บาท/ดอลลาร์
  • นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานคณะกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยเปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ได้ส่งผลให้ผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรไทย หรือตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มสูงขึ้นแล้ว 0.3-0.4% เมื่อเทียบกับต้นปี
  • เมื่อค่ำที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยประกาศขยายพื้นที่บังคับใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพิ่มเติบครบทั้ง 50 เขตในกรุงเทพฯ และให้ครอบคลุมไปถึง จ.นนทบุรี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.56 โดยชี้แจงว่าเป็นความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องรักษาสถานการณ์ความสงบเรียบร้อย หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณบุกเข้ายึดสถานที่ราชการหลายแห่ง
  • นายวินเซนต์ มิลตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฟิทช์ฯ ใช้ในการประเมินความน่าเชื่อถือของประเทศ โดยฟิทช์ฯ ได้จับตาภาวะการเมืองตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องประเมินผลกระทบในอีก 2-3 เดือนต่อจากนี้ว่า ภาวะการเมืองจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาวมากน้อยแค่ไหน แต่เบื้องต้นความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน และหากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไปก็จะมีผลต่อการวางนโยบายระยะยาวของประเทศ เช่น นโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาด้านการศึกษาที่จะมีผลต่อขีดความสามารถของประเทศในระยะยาว ซึ่งนโยบายเหล่านี้ต้องการรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งและความน่าเชื่อถือในการผลักดัน
  • เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในประเทศไทย และสหรัฐกำลังติดตามการชุมนุมประท้วงในกรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงจากการใช้ความรุนแรง และเห็นว่าการบุกยึดสถานที่ราชการและเอกชนไม่ใช่แนวทางที่สามารถยอมรับได้ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
  • นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติทยอยสอบถามถึงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองว่าจะรุนแรงมากน้อยเพียงใด ซึ่งส.อ.ท. ไม่สามารถตอบได้ แต่ยอมรับว่าจากที่ภาคเอกชนเคยกังวล ได้กลายเป็นวิตกว่าจะเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันแทนที่จะทำให้สังคมแตกแยกไปมากกว่านี้ เพราะหากเหตุการณ์ยืดเยื้อจะกระทบต่อรายได้การส่งออก ท่องเที่ยว และบรรยากาศการลงทุน ซึ่งยากที่จะฟื้นคืนมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ
  • นายศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการฝ่ายสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ประเมินผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองไว้ 3 สมมติฐานคือ หากเหตุการณ์ยืดเยื้อแต่จบภายในสิ้นปี 56 รายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวจะตรงตามเป้าเดิม คือมีนักท่องเที่ยว 26.10 ล้านคนและมีรายได้ 1.17 ล้านบาท แต่หากในเดือน ธ.ค.มีประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในระดับที่ 5 หรือห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไทย จะทำให้นักท่องเที่ยวลดลง 8-10% หรือเหลือ 25.7 ล้านคน ส่วนรายได้จะลดลง 25,000 ล้านบาท ส่วนหากยืดเยื้อถึงไตรมาส 1 ปี 57 แม้รายได้ปี 57 ยังเติบโต 13% ตามคาดการณ์เดิม แต่นักท่องเที่ยวจะลดลงเหลือขยายตัวเพียง 7% จากเดิมคาดโต 13% และสุดท้ายหากเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น จะทำให้เดือน ธ.ค.นักท่องเที่ยวลดลง 18-20% และจะชะลอตัวไปจนถึงไตรมาส 2 ปี 57 ส่งผลให้สิ้นปี 57 จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโต 7% และรายได้เติบโต 11% เท่านั้น
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุบเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่าชาติมหาอำนาจบรรลุข้อตกลงว่าด้วยแผนการนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซึ่งข่าวดังกล่าวได้บรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 182 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,630 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,259.67 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 19.71 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังจากอิหร่านบรรลุข้อตกลงประเด็นนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 94.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 111.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ