สำหรับกรอบการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบฯ นั้น ได้กำหนดระยะเวลาให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน โดยจะมีการประชุมนัดแรกวันที่ 3 ธ.ค.56 และจะเน้นการตรวจสอบในประเด็นที่มีการอภิปรายในขั้นตอนของการจัดทำข้าวถุง ตั้งแต่การเปิดหาผู้ปรับปรุงคุณภาพข้าว และผู้จัดจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงคณะกรรมาธิการวุฒิสภาที่มีการเรียกสอบข้าวถุงก่อนหน้านี้ นำหลักฐานที่กล่าวหาว่าทุจริตมาให้คณะกรรมการตรวจสอบฯดำเนินการด้วย นอกจากนี้ จะตรวจสอบวิธีการเปิดประมูลเลือกผู้ปรับปรุง และผู้กระจายข้าวที่ระบุว่าล็อกสเป็กให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่งด้วย
"ส่วนกรณีที่หนังสือสัญญาว่าจ้างเอกชนให้เป็นผู้ปรับปรุงและผู้กระจายสินค้า ไม่มีการลงนามในฝ่ายของภาครัฐ มีแต่การลงนามของภาคเอกชนนั้น มองว่าถ้าผู้ซื้อและผู้ขายรับรู้ร่วมกันว่ามีการซื้อขาย ถือว่าเป็นสัญญาได้แล้ว แต่การไม่เซ็นอาจเป็นความผิดในเรื่องความบกพร่อง ก็ต้องดูว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นต่อรัฐหรือไม่" นายยรรยง กล่าว
พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการ อคส. โยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตข้าวถุงไปทำหน้าที่อื่นก่อนในระหว่างการตรวจสอบ หากผลการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐและภาคเอกชนมีการทุจริตจริง จะดำเนินการทางกฎหมายทางอาญาและแพ่งต่อไป