นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ยอมรับว่า จากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยในปีนี้ให้โตได้ไม่ถึง 3% ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ ส่งผลให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ซึ่งจะเห็นได้จากในช่วงครึ่งปีหลัง(ไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 56-ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 57) การเบิกจ่ายงบประมาณยังเบิกจ่ายได้ไม่ถึง 28% ซึ่งถือว่าต่ำมาก ประกอบกับขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ดีจากที่นักท่องเที่ยวเริ่มชะลอการเดินทางเข้ามาในไทย
ขณะที่ในปี 57 การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจะยังคงได้รับผลกระทบที่ต่อเนื่องจากปีนี้ ทั้งในด้านปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งอาจจะทำให้ GDP ในปี 57 โตได้ไม่ถึง 5% เนื่องจากเดิมที่คาดหวังว่าจะมีการลงทุนต่างๆ จากภาครัฐและเอกชนนั้นอาจต้องชะลอออกไป ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนถดถอยลงไปจากความผันผวนทางการเมือง รวมทั้งอาจจะส่งผลต่อการปรับลดความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับเครดิตต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนการกู้ยืมเงินของประเทศที่จะนำมาใช้ในการลงทุนด้วย
ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากผลกระทบที่ผู้ชุมนุมเข้ามาปิดพื้นที่ในกระทรวงการคลังนั้น ได้ส่งผลให้มีปัญหาการทำงานในบางส่วนต้องสะดุดลง ซึ่งประชาชนอาจจะไม่ได้รับความสะดวกไปบ้าง แต่ยืนยันว่าระบบการจ่ายเงินเดือนข้าราชการจะไม่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน