"ธอส.จะประชุมสัปดาห์นี้ และจะมีข่าวดีให้" นางอังคณา กล่าว
สำหรับปัญหาการเมืองในประเทศขณะนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารฯ โดยมั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อในปีนี้จะทำได้ตามเป้าที่ 120,000 ล้านบาท หลังจาก 10 เดือนแรกของปีนี้ทำได้แล้ว 119,000 ล้านบาท ส่งผลให้ผลกำไรทำได้ตามเป้าที่ 7,600 ลันบาทเช่นกัน พร้อมทั้งจะลดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ในสิ้นปีนี้ลงเหลือ 6.35% จาก ณ สิ้นเดือน ต.ค.อยู่ที่ 6.52%
"ปัญหาการเมืองไม่กระทบกำไรปีนี้คาดโตตามเป้า 7.6 พันล้านบาท เพราะมีสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดสูงถึง 60%...เป้าสินเชื่อตั้งไว้ 1.2 แสนล้านบาท ยอดตอนนี้ 1.19 แสนล้านบาทแล้ว ดังนั้น สินเชื่อธ.ค. ไม่น่าจะมีปัญหา สอดคล้องกับแนวโน้มอสังหาฯ ในต่างจังหวัด ที่เราเน้นภูมิภาคตะวันออก และ ตะวันออกเฉียงเหนือ"
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 3/56 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนว่า ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 91,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,753 ล้านบาท คิดเป็น 20.90% กำไรสุทธิจำนวน 6,225 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 723,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17,301 ล้านบาท คิดเป็น 2.45% สินทรัพย์รวม 759,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,095 ล้านบาท คิดเป็น 3.14% เงินฝากรวม 590,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,793 ล้านบาท คิดเป็น 3.29%
ขณะเดียวกันยังสามารถลดจำนวนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เหลือจำนวน 48,506 ล้านบาท คิดเป็น 6.71% ของยอดสินเชื่อรวม หรือลดลง10.85% ด้านทรัพย์สินรอการขาย(NPA) คงเหลือจำนวน 1,960 ล้านบาท ลดลง 17.32% จากตัวเลขผลการดำเนินงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าปล่อยสินเชื่อบ้านให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่มลูกค้า ธอส.ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริง ประกอบกับร่างพ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศมูลค่า 2 ล้านล้านบาท และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58 มีผลช่วยให้เกิดการขยายตัวของเมือง และยังเพิ่มความต้องการในด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ส่วนในปี 57 ตั้งเป้าสินเชื่อไว้ 1.3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นเติบโต 8% สอดคล้องกับตลาดอสังหาฯในภาพรวมที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 5% ส่วนแนวโน้ม NPLs น่าจะลดลงต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีแผนจะขยายสาขาทั่วประเทศ รวม 12 สาขา จากปี 56 ที่มีการขยายสาขา 25 สาขา ซึ่งเน้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
"ดอกเบี้ยลง NPL ก็จะดีขึ้น และที่ผ่านมา เราแก้หนี้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการขายให้ BAM-จำหน่ายหนี้สูญ...NPL ธอส.ไม่มีโครงการบ้านหลังแรก"นางอังคณา กล่าว
สำหรับ พ.ร.บ.เงินกู้ฯ 2 ล้านล้านบาท และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58 ยังมีส่วนช่วยให้แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าเติบโตได้ดี เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงตลาดการค้าการลงทุน นำความเจริญสู่ภูมิภาคทั้งจังหวัดหัวเมืองหลักและหัวเมืองรอง บรรดาผู้ประกอบการต่างเริ่มลงทุนก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง เพราะมองเห็นโอกาสจากความเจริญที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามมา
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้จัดทำยุทศาสตร์เชิงรุก ภายใต้แนวคิด?ก้าวไกล ก้าวทัน AEC กับ ธอส. 2557" เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืน เริ่มจากการปรับโครงสร้างองค์กร เสริมความมั่นคงแข็งแกร่ง เพื่อรองรับการแข่งขันและความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่จะมีเพิ่มมากขึ้นในระยะอันใกล้นี้ พร้อมมุ่งพัฒนาคุณภาพบริการสู่ความเป็นเลิศเพื่อสร้างความพึงพอใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการปรับปรุงระบบงานหลัก (CBS Core Banking System) รองรับปริมาณธุรกรรมในอนาคต ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการทั้งสินเชื่อและเงินฝากเพื่อให้ก้าวทันกับพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการความง่าย สะดวก และรวดเร็วในการทำธุรกรรมทางการเงิน และปรับปรุงการบริหารจัดการงาน Back Office โดยการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริหารความเสี่ยงให้ทันสมัย เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ด้านนายสัมมา คีตะสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้ผู้บริโภคลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น
"ยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีปัญหาเรื่องฟองสบู่ แต่มีการออกโครงการเยอะ จากเงินไหลเข้าไทย" นายสัมมา กล่าว
ทั้งนี้ จากการที่ทุกประเทศจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ทำให้ทุประเทศมีการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ เพื่อรองรับ ทำให้ตลาดอสังหาฯ ขยายไปเมืองรองมากขึ้น ในส่วนของไทยที่จะมีการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ดังนั้น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเน้นตามสถานีหลักๆ ก่อน อย่างล่าสุดเท่าที่ทราบที่ดินริมทะเลบริเวณหัวหิน มีการซื้อขายกันไร่ละ 100 ล้านบาทแล้ว