ทั้งนี้ แม้ว่าสิงคโปร์จะไม่ใช่ตลาดคู่ค้าหลักของไทย แต่การเปิดตลาดไก่สดในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะส่งผลให้ตลาดอื่น ๆ ให้ความสนใจไก่ไทยมากขึ้น เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่กำหนดมาตรฐานการนำเข้าสัตว์ปีกไว้สูงมาก โดยการเปิดตลาดให้ไทยในครั้งนี้มีเงื่อนไขว่าไก่สดแช่เย็นแช่แข็งต้องมาจากฟาร์มของบริษัทที่เป็นระบบปิด(Compartment)เท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่กรมปศุสัตว์ของไทยใช้ควบคุมและเฝ้าระวังการเกิดโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวด
ปัจจุบันสิงคโปร์รับรองให้ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) และบริษัท สหฟาร์ม จำกัด เพียง 2 บริษัท ที่สามารถส่งออกไก่สดไปยังสิงคโปร์ได้ และอาจมีการรับรองบริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากประเทศที่เคยมีมาตรการห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกสดจากไทย ได้ยกเลิกมาตรการแล้ว ได้แก่ ฮ่องกง บาร์เรน สหพันธรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับ-เอมิเรตส์ สหภาพยุโรป รวมทั้งล่าสุดสิงคโปร์ ได้ส่งผลให้การส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งของไทยเพิ่มสูงขึ้นอีกเท่าตัวจาก 51,270 ตัน ในปี 2554 เพิ่มเป็น 116,178 ตัน ในปี 2555
อย่างไรก็ดี ผู้ส่งออกไทยอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือแม้แต่ตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย ดังนั้นผู้ส่งออกไทยจึงควรให้ความสำคัญกับการส่งออกและขยายตลาดสินค้าไก่แปรรูปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพในระดับสูงจากผู้บริโภคในตลาดสิงคโปร์และตลาดโลก รวมทั้งควรสร้างมูลค่าเพิ่ม และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่สินค้าไก่แปรรูปของไทย ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกของไทยในขณะนี้
อนึ่ง ในปี 55 ไทยส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์รวม 560,652 ตัน มูลค่า 69,726 ล้านบาท โดยในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.56 ไทยส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์รวม 402,766 ตัน มูลค่า 51,100 ล้านบาท ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.25 ในขณะที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.59 โดยปริมาณการส่งออกไก่สดของไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40.69 ในขณะที่ปริมาณการส่งออกไก่แปรรูปลดลงเล็กน้อยร้อยละ 9.12
สำหรับตลาดส่งออกไก่สดที่สำคัญของไทยปี 56 คือ สหภาพยุโรป (สัดส่วนร้อยละ 43) และลาว (สัดส่วนร้อยละ 34) สำหรับตลาดส่งออกไก่แปรรูปที่สำคัญ คือ ญี่ปุ่น (สัดส่วนร้อยละ 48) และสหภาพยุโรป (สัดส่วนร้อยละ 43) ซึ่งการเปิดตลาดไก่สดของสิงคโปร์จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทยได้อีกกว่าปีละ 8,000 ล้านบาท