ผู้ว่าธปท.เผยบาทช่วงนี้เคลื่อนไหวกรอบแคบตามปัจจัยการเมืองในปท.- QE

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 12, 2013 09:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าไปที่ 31.90 บาท/ดอลลาร์ และกลับมาหลุด 32 บาท/ดอลลาร์เล็กน้อยมาที่ระดับ 32.03-32.04 บาท/ดอลลาร์ เป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินบาทมาจากทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศ และปัจจัยต่างประเทศเรื่องการจะปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ(QE)
"ค่าเงินบาทในช่วงนี้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ไม่มีสัญญาณว่าภาวะ panic แสดงว่าตลาดยังดี"นายประสาร กล่าว

ทั้งนี้ธปท.ยังติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด และสบายใจได้ระดับหนึ่งที่ตลาดไม่ panic ส่วนหนึ่งเพราะตลาดรับรู้เรื่องการลดขนาดมาตรการ QE อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ชัดเจนว่าจะมีผลเมื่อใด จะเลื่อนทำเร็วขึ้นหรือไม่ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ธปท.ยืนยันยังมีทุนสำรองทางการและมาตรการต่างๆ เตรียมไว้รับมือบ้างแล้ว จึงไม่น่าห่วงในแง่ผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนมากนัก

ผู้ว่า ธปท.กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 57 ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศนั้น เบื้องต้นยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าออกไปเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ในส่วนที่เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินนั้น ในส่วนของธปท.ได้ทำหน้าที่ดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ โดยพยายามจะบริหารจัดการอย่างเต็มความสามารถ แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจด้วยว่า ธปท.เองก็มีข้อจำกัด และมีเครื่องมือให้เลือกใช้ไม่ได้มากนัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องการเห็นมากที่สุดคือ ส่วนอื่นของเศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้ด้วยดีด้วย

ผู้ว่าธปท. กล่าวต่อว่า การจะทำให้เศรษฐกิจเดินไปได้จะต้องทำให้กลไกลในระบบเศรษฐกิจทำงานได้ ต้องทำให้ภาคอุตสาหกรรมเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงภาคการเกษตร และการท่องเที่ยวต้องเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งทุกภาคส่วนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกันหากภาคส่วนดังกล่าวไม่สามารถเดินไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งย่อมจะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ

"แน่นอนว่านโยบายการเงินไม่สามารถจะทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปได้ เพราะ ธปท.เองอยู่เป็นด่านหลัง ซึ่งหากเปรียบเป็นเรือก็อาจจะทำได้เพียงคัดท้าย หรือประคองไปได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่การทำงานของรัฐบาลเป็นกลไกสำคัญในระบบเศรษฐกิจ หากกลไกดังกล่าวไม่ทำงานจะถือเป็นจุดเสี่ยงของเศรษฐกิจ เนื่องจากอาจทำให้การส่งออก การนำเข้า การท่องเที่ยว หรือการลงทุนเอกชนที่ต้องติดต่อกับหน่วยงานราชการก็จะไม่สามารถดำเนินการได้" ผู้ว่า ธปท. กล่าว

ส่วนประเด็นที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) จะเข้าหารือกับกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)นั้น ส่วนตัวมองว่าน่าจะเป็นการดำเนินการที่ดี และเชื่อว่าจะช่วยทำให้ประเทศหาทางออกได้ ก่อนที่เรื่องราวจะลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ